Monday, December 14, 2015

NC พลิกล็อกให้ลงรัก ตอนที่ 23 ของขวัญวันเกิด (ฝิ่นแอ้ม)


 23. ของขวัญวันเกิด


……….CUT………

“ขอบคุณครับแอ้ม ขอบคุณมากเลยครับที่รักของฝิ่น” ร่างหนานาบทับลงมาเต็มตัว ริมฝีปากหยักประกบจูบปลอบประโลมหัวใจผมให้สงบลงเล็กน้อย ผมยกแขนขึ้นเกี่ยวกอดร่างกายของคนรักเอาไว้แนบชิด เผยอริมฝีปากรับรสจูบแสนลึกซึ้งและช่างดูดดื่มเสียจนไม่อยากหยุดสัมผัสนี้ลงไปเลย

หัวใจยังคงเต้นโครมคราม ผมตกอยู่ในอ้อมกอดแสนอบอุ่น ร่างกายของเราทั้งคู่เบียดเสียดเข้าหากันและกัน รสจูบยังตราตรึงและดึงผมให้จมลงสู่ห้วงปรารถนา ความต้องการเริ่มก่อเกิดอยู่ในใจ และมันจะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นตามสัมผัสที่ได้รับมา

ปลายลิ้นชื้นสอดเข้ามาทักทายและเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นผมด้วยความร้อนแรงที่เพิ่มพูนมากขึ้น มือหนาไล้จากหน้าอกปัดป่ายลงไปยังต้นขา ลูบวนตรงเนื้ออ่อนไล้ไปมา มาหยุดอยู่ตรงขอบกางเกงใน นิ้วเรียวค่อยๆ เกี่ยวขอบกางเกงลงต่ำ เปิดเผยความต้องการที่ซ่อนเร้นให้เด่นชัด

“อืมมมม” ผมครางอื้ออึงในลำคอ ถูกปากหยักเม้มปลายลิ้นและดูดดุนไม่ยอมห่าง ความเสียวซ่านเล่นงานผมจนแทบแดดิ้น ทั้งปากทั้งมือของฝิ่นปรนเปรอความรู้สึกของผมจนมันแทบเอ่อล้น

“ฝิ่น...” ผมครางเสียงสั่น เรียกชื่อคนรักของผมไม่หยุดปาก รักมันนะ รักมากเลย รักแบบไร้เงื่อนไขใดๆ อีกต่อไปแล้ว

“ครับ ที่รัก” มันถอนริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไล่เม้มกลีบปากทั้งบนและล่าง ขบเม้มเบาๆ ดูดเล่นอยู่อย่างนั้นจนผมแทบคลั่ง พรุ่งนี้ปากผมอาจจะเจ่อบวมช้ำไม่แพ้ไอ้ดิน แต่อารมณ์นี้ใครจะไปสนใจ ขอแค่ให้ไอ้ฝิ่นพอใจและมีความสุขก็พอแล้ว

“รักฝิ่นนะ” เสียงผมสั่นสะท้านตามอารมณ์ที่แสนสั่นไหว มือหนาขยับส่วนอ่อนไหวต่อความรู้สึกไม่หยุด ปากหยักก็ไล่จูบไปทั่วใบหน้า เชยชิมทุกส่วนที่ลากไล้ลิ้นและริมฝีปากผ่านอย่างอ้อยอิ่ง

“เช่นกันครับ รักแอ้มสุดหัวใจดวงนี้เลย” ร่างหนาถอนตัวขึ้นเล็กน้อย ผมถูกกุมมือขึ้นมาจุมพิตหลังมือแผ่ว ปากหยุ่นไล่จูบไปทั่วทุกนิ้วมือ ถูกจูบปลายนิ้วมือทุกนิ้ว ถูกลิ้นชื้นไล่เลียทุกนิ้วมือ เสียวสะท้านไปทั้งร่างกาย ในขณะที่มืออีกข้างของหนวดยังไม่หยุดขยับส่วนนั้นให้ผมคลั่งจนแทบเป็นบ้า

แม้ว่าการกระทำของหนวดมันจะจดจ่ออยู่ที่นิ้วมือและส่วนอ่อนไหวของผม แต่สายตาของมันก็ไม่ได้ละไปจากใบหน้าผมเลย มันทอดมองส่งความรักล้นใจมาให้ ผมยิ้มรับด้วยความเขินอายทั้งหมดที่มี

แต่ไม่เป็นไร เพราะเป็นหนวด เพราะคือฝิ่น คือคนที่ผมยอมรับแล้วว่ารักจนหมดหัวใจ

ลิ้นชื้นเลียตั้งแต่ปลายนิ้วมือไล่ลงมาเรื่อย ทั้งขบเม้ม ทั้งจูบหนักและเบาสลับตำแหน่งกันไป ปากหยักเม้มเนื้ออ่อนตรงต้นแขนด้านใน ลากลิ้นเลียลงมาจนถึงหัวไหล่ กัดเบาๆ ตรงเนินอก ก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนจุดแข็งชันที่ผ่านการบดคลึงจากปลายนิ้วมือหนามาเมื่อครู่

“อ๊า... อะ อื้ออออ” แม้จะอยากร้องเสียงดังแค่ไหนก็ไม่อาจทำได้ ยามนี้ทุกอย่างรอบตัวเงียบสงบ มันเงียบมากจนผมได้ยินเสียงห้องข้างๆ อย่าง พี่อั้มกับไอ้ดิน... สองคนนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากผมกับไอ้ฝิ่นในตอนนี้เลย

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องกลั้นเอาไว้หรอก มันเป็นเรื่องธรรมดา เรารักกัน... มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนรักกันนะครับแอ้ม” ฝิ่นดึงมือผมออกจากการปิดปากกั้นเสียงร้อง ยังไงผมก็ไม่กล้าส่งเสียงดังไปกว่านี้ แค่นี้ก็อายตัวเองจะแย่

“แอ้มหวานไปทั้งตัวเลย... หวานจนฝิ่นไม่อยากหยุดชิมเลย” เสียงอ้อนหวานเสียจนผมใจอ่อนยวบ ผมยกมือขึ้นนาบบนใบหน้าหล่อคมเข้ม ไล้แผ่วเบาอย่างสุดรัก ฝิ่นจับมือผมเอาไว้ และไล่ดูดปลายนิ้วมือผมอีกรอบ

ดูดเข้า... คลายออก... ทีละนิ้ว... ทีละนิ้ว... กระตุ้นสัมผัสจนผมแทบคลั่ง

“ก็... อย่าหยุดสิ” ผมยั่วยวนเชิญชวนอย่างไม่ตั้งใจ เพียงแค่พูดมันออกไปตามความรู้สึกเท่านั้น ฝิ่นยิ้มกว้าง มันขยับลงไปนั่งตรงปลายเท้า เกี่ยวกางเกงในผมดึงลงไปจนสุดปลายเท้า และถอดมันออกในที่สุด

“แอ้มครับ... ขอฝิ่นชิมแอ้มหน่อยนะ อยากชิมไปทั้งตัวเลย” ผมพยักหน้ารับ ถูกจับข้อเท้าทั้งสองข้างยกขึ้นวางพาดบนบ่า ถูกดึงรั้งเอวและสะโพกให้ลอยขึ้นเหนือเตียงเล็กน้อย หมอนหนุนทั้งสองใบถูกดึงมารองรับให้ผมไม่เมื่อยและเกร็งร่างกายมากเกินไป

“ฝิ่น!! อย่ารุนแรงกับแอ้มนะ...”

“ไม่ครับ! สัญญาว่าจะถนอมที่สุด ไม่ทำรุนแรงกับที่รักหรอกครับ” ปากหวานไม่มีใครเกิน ใจผมเต้นระรัวจนแทบเป็นบ้า แค่ถูกจูบเนื้ออ่อนตรงต้นขาด้านใน ถูกปลายลิ้นตวัดเลียลากไล้ขึ้นลงไปมา ปากหยักขบเม้มและดูดหนัก สร้างรอยแล้วรอยเล่าจับจองร่างกายผมเอาไว้ไม่จบไม่สิ้น

“แอ้มขาวจัง ผิวเนียนละเอียดมากเลย ฝิ่นฝากรอยรักพวกนี้เอาไว้ได้มั้ยครับ อยากจับจองแอ้มไปทั้งตัวเลย”

“มาถามอะไรตอนนี้ ก็ทำไปแล้วไม่ใช่หรือไง... อื้ออออ” เหมือนฝิ่นจงใจกลั่นแกล้งให้ผมคลั่ง มันก้มหน้าลงมาครอบครองส่วนแข็งขืนด้วยการกดริมฝีปากกลืนกินเข้าไปทีละนิดๆ จนคับแน่นเต็มปาก ก่อนจะค่อยๆ ถอนริมฝีปากขึ้นอย่างช้าๆ เนิบนาบจงใจแกล้ง

“อ๊ะ.... อื้อออออ” ผมเกร็งร่างกายสะท้านยามปากหยักกดลงและถอนขึ้น กดลงและถอนขึ้นซ้ำไปซ้ำมา ในหัวผมขาวโพลนไปหมด มันเสียวซ่านสั่นสะท้านจนร่างกายแทบดิ้นเร่าๆ เผลอแอ่นสะโพกสวนขึ้นหา แต่ดูเหมือนว่าฝิ่นจะพึงพอใจ มือหนายกสะโพกผมสวนขึ้นมาหาสัมผัสจากริมฝีปากไม่หยุด จนผมทำใจกล้าแอ่นสะโพกสวนขึ้นรับจังหวะของฝิ่นอย่างประสานลงตัว

“อ๊า....” สุขมาก สุขจนแทบบ้า มันสุขล้นจนผมแทบทะลักความสุขออกมา ยิ่งถูกดูดหนักมากเท่าไหร่ ผมยิ่งแดดิ้นตายมากเท่านั้น

“ฝิ่น... อื้อ... ฝิ่น...” ไม่ไหวแล้ว เหมือนฝิ่นพยายามเร่งเร้าอารมณ์ผมให้ปะทุออกมา และมันก็ใกล้จะระเบิดเต็มที ยิ่งฝิ่นออกแรงดูดหนักเท่าไหร่ ผมยิ่งปวดเกร็งหน้าท้อง อารมณ์ครุกรุ่นเริ่มสูบฉีดพุ่งขึ้นสูง...

สูงมาก... จนกระทั่ง

“อ๊า...” มือเกร็งจิกที่นอนแน่น หายใจหอบกระชั้นและเกร็งร่างสะท้าน ปรือตาขึ้นมองก็พบว่าใบหน้าและปากของฝิ่นเต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนาของผม ตั้งใจจะลุกขึ้นเช็ดหน้าให้ แต่ฝิ่นก็ส่ายหน้าไปมา มันเลียปากช้าๆ ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์แสนดูดีจนทำให้ผมร้อนวาบไปทั้งร่างกายอีกครั้ง

“บอกแล้วไงครับว่าของแอ้มน่ะ... อร่อย” มือหนาหยิบกระดาษมาเช็ดหน้าแบบลวกๆ ผมนอนหอบหายใจอยู่อย่างนั้น มองภาพตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น เพราะตอนนี้ฝิ่นก้มลงถอดกางเกงออกจากร่าง ความต้องการของมันเด่นชัดและผงาดเต็มที่ ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แค่คิดว่าส่วนนั่นจะเข้ามาในร่างกายของผม ก็เกิดความกลัวขึ้นมาเล็กน้อย

“จะเจ็บใช่มั้ย...”

“ใช่ครับ เพราะมันเป็นครั้งแรกของแอ้ม... แต่ถ้ากลัว ก็ไม่ต้องฝืนหรอก แค่นี้ฝิ่นก็มีความสุข...”

“กลัวนะ แต่ไม่ถอยแล้ว รักแล้ว จะเจ็บก็ยอม” ฝิ่นขยับเข้ามาหา มันดึงผมลุกขึ้นจากเตียงนอน รั้งขึ้นมานั่งทับบนตัก จับเรียวขาให้เกี่ยวเข้ากับเอวหนา ส่วนแข็งขืนของเราสัมผัสถูไถกันอยู่อย่างนั้น แค่ขยับมันก็เสียดสีกันไปมา ผมกำลังจะเป็นบ้า แต่ผมก็สามารถหยุดความต้องการของตัวเองเอาไว้ได้อีกแล้ว

“แอ้มครับ... เป็นของฝิ่นนะครับคนดี ฝิ่นสัญญาว่าจะรักแอ้มให้มากยิ่งขึ้น จะไม่มีวันลดน้อยลงแม้แต่นิดเดียว... เราเป็นหนึ่งเดียวกันนะครับ” ผมพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเลสิ่งใดอีกแล้ว หยุดไม่ได้แล้ว ความรู้สึกที่มีต่อฝิ่นมันเกินการควบคุมไปแล้ว

“สัญญานะ...”

“ครับ... ฝิ่นสัญญา” มือหนากอบกุมส่วนแข็งขืนของเราทั้งสองด้วยมือเดียว ฝิ่นรูดรั้งมันไปพร้อมๆ กัน ผมก้มซุกลงบนอกแกร่ง เม้มผิวกายของฝิ่นไปทั่วเพื่อปลดปล่อยความเสียวซ่านออกไปเสียบ้าง

เราทั้งคู่ต่างซุกไซ้อีกฝ่าย ผมกอดรัดร่างหนาแนบแน่น ไล่จูบไล่กัดไปทั่วลำคอ เนินอก และไหล่ของฝิ่นจนเป็นรอยเต็มไปหมด เจ้าตัวไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ ซ้ำยังดูจะพออกพอใจเสียอีก

“แอ้มครับ... แยกขากว่านี้ได้มั้ย” ผมทำตามอย่างว่าง่าย ฝิ่นหันไปคว้าขวดใสมาจากหัวเตียง ละเลงเจลใสใส่ฝ่ามือ ก่อนจะค่อยๆ สอดนิ้วอ้อมไปทางด้านหลัง ความเย็นของเจลที่สัมผัสลงยังช่องทางหลัง ทำให้ผมสะดุ้งและโผเข้ากอดรอบคอฝิ่นแน่น

“เจ็บหน่อยนะครับ แต่มันจะทำให้แอ้มค่อยๆ ชิน” นิ้วมือเรียวยาวค่อยๆ สอดเข้าไปหนึ่งนิ้ว ผมจิกนิ้วลงบนไหล่หนาแน่น เกร็งร่างกายจนฝิ่นหยุดชะงักการกระทำ มันจูบขมับและกระซิบบอกรักผมไม่หยุด เพื่อทำให้ผมผ่อนคลายและคลายอาการเกร็งลง

“รักแอ้มนะ รักฝิ่นใช่มั้ย เชื่อใจกันได้มั้ยครับ จะไม่ทำให้แอ้มเจ็บแน่นอน...” ผมพยักหน้ารับอยู่กับอกแกร่ง ค่อยๆ คลายอาการเกร็ง เกี่ยวขาเข้ากับเอวหนาเอาไว้ กอดเกี่ยวร่างกายของฝิ่นเอาไว้แน่น

นิ้วแรกเข้ามาได้แล้ว นิ้วที่สองก็ค่อยๆ ตามเข้ามา จังหวะที่ถูกสอดนิ้วเข้ามาลึก ผมผวาเข้ากอดฝิ่นอีกหน ได้รับการจูบหน้าผากปลอบประโลม ได้รับรอยยิ้มให้ใจชื้นและเพิ่มความไว้วางใจให้กลับไป

“ไม่เป็นไรนะครับ รู้ใช่มั้ยว่าฝิ่นรักแอ้มมากแค่ไหน เราจะผ่านมันไปได้ เราจะมีความสุขไปด้วยกัน” มันอาศัยช่วงเวลาที่กำลังบอกรัก ค่อยๆ สอดนิ้วที่สามเข้ามา ผมรู้สึกเจ็บเสียดและอึดอัด ร่างกายเกร็งและตอดรัดนิ้วมือตุบๆ มือหนาลูบใบหน้าและเส้นผมที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อให้อย่างอ่อนโยน

“เจ็บนะ แต่ทนได้...” ผมกลั้นใจตอบกลับไป เจ็บมาก เจ็บจริงๆ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมามีสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน และไม่คิดเลยว่าชาตินี้จะมีคนได้มาสัมผัสช่องทางนี้

ถ้าไม่สำคัญจริงๆ คงไม่มีทางยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่

“ถ้าแอ้มไหว... ฝิ่นจะไปต่อแล้วนะครับ” ผมพยักหน้ารับ นิ้วมือค่อยๆ ถอนออกทีละนิ้ว ฝิ่นประคองผมให้ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง มันคว้าซองถุงยางขึ้นมาใช้ปากกัดฉีกซองเปิด จัดการสวมใสอย่างคล่องแคล่ว เจลใสถูกบีบลงบนฝ่ามืออีกครั้ง และถูกละเลงลงบนส่วนแข็งขืนของเจ้าตัว

“ถ้าไม่ไหว บอกได้นะครับ ถึงฝิ่นจะต้องการ แต่แอ้มสำคัญกว่านะ” ผมพยักหน้ารับ

“ไม่เป็นไร ต่อให้ไม่ไหวก็จะทน ความสุขของฝิ่นก็สำคัญกับแอ้มนะ” รักอีกแล้ว รักผู้ชายคนนี้มากขึ้นอีกแล้ว ไม่ว่าจะเวลาไหน ฝิ่นก็ให้ความสำคัญกับผมก่อนเสมอ รักมากจริงๆ

“แอ้มจะทำให้ฝิ่นรักมากแค่ไหนถึงจะพอใจกันน้า ฝิ่นจะเป็นบ้าตายเพราะความรักที่มีต่อแอ้มแล้วนะ” มือหนาจับเรียวขาข้างหนึ่งขึ้นพาดบนไหล่ อีกข้างถูกจับยกให้ตั้งชันและแยกออกห่าง หมอนหนุนถูกรองใต้สะโพกเพื่อหนุนให้ร่างผมลอยเด่นขึ้นมาเล็กน้อย ฝิ่นดูชำนาญกับเรื่องบนเตียงมาก แต่ก็ไม่แปลก ในเมื่อมันเองก็เคยคบใครมาก่อนหน้าผมตั้งมากมาย

เรื่องในอดีตผมจะไม่สนใจ จะปล่อยมันผ่านไป จะมองแค่ปัจจุบันตอนนี้ มันให้ความรักและความสำคัญกับผมมาก มากจนผมไม่อาจละเลยได้อีกแล้ว

“จะทำให้รักจนตายกันไปข้างเลย” หัวใจผมเต้นระรัว มันน่ากลัวว่าจะระเบิดออกมาจากอก ยิ่งฝิ่นรูดรั้งแกนกายตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมเริ่มต้นมอบความแปลกใหม่ให้ ผมยิ่งร้อนผ่าวและเสียวซ่านไปทั่งร่าง อยากจะหดขากลับมาเบียดชิดกันเอาไว้ แต่ก็ไม่ทันอีกแล้ว

“อื้อออออออ” นิ้วจิกที่นอนอย่างแรงและกระตุกมันเอาไว้ แค่ถูกสอดใส่เข้ามาเพียงเล็กน้อย ยังเจ็บและเสียวซ่านจนแทบคลั่ง ช่องทางตอดรัดระรัวจนฝิ่นไม่อาจขยับร่างกายเข้ามาได้อีก

“แอ้มครับ ลืมตามองฝิ่นนะครับ อย่ากลัว อย่าหลับตา ลืมตาขึ้นมามองสบตากับคนที่รักแอ้มมากที่สุด นะครับ” ผมค่อยๆ ลืมตา ฝิ่นดูทรมานมากเพราะไม่สามารถขยับร่างกายเข้ามาได้ ผมค่อยๆ ผ่อนลมหายใจช้าๆ ค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าลึก กัดฟันแน่นยามเมื่อฝิ่นเคลื่อนร่างกายสวนเข้ามาหาช้าๆ แต่เสียวซ่านและเสียดไปทั่วทั้งร่างกาย

“จะ... เจ็บ อื้ออออออ” กว่าฝิ่นจะกดร่างกายเข้ามาจนสุด เล่นเอาผมแทบเป็นบ้าตาย แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะจบลงตรงนี้เสียเมื่อไหร่ ยามที่ฝิ่นกดแช่ร่างกายค้างเติ่งเอาไว้เช่นนี้ ผมก็ทั้งอึดอัดและอยากเร่งเร้าให้มันขยับร่างกายไปต่อเสียที

“ฝิ่น... ทำนะ ทำเถอะ... ไม่ไหวแล้ว” ผมจับมือหนากระตุกเบาๆ ฝิ่นยิ้มรับและค่อยๆ โน้มร่างกายลงมาโอบกอดผมเอาไว้แนบแน่น จูบทั้งหน้าผากและขมับ จูบซับไปทั่วใบหน้า สะโพกเริ่มขยับซอยจังหวะช้าๆ

สวนเข้าหา... ค่อยๆ ถอนร่างกายออกห่าง และสวนกลับเข้ามาอยู่อย่างนั้นอย่างต่อเนื่อง

“อื้ออออออออ” ความรู้สึกแปลกใหม่ที่กำลังได้รับเล่นงานผมจนดิ้นพล่าน แต่ร่างหนาก็กอดและกดร่างผมเอาไว้ให้แน่นิ่ง ฝิ่นประสานนิ้วมือเข้าหามือผม ไล่จูบไปทั่วใบหน้า ประทับริมฝีปากลงบนปากปิดกั้นเสียงร้องสั่นสะท้านที่ดังขึ้นมากกว่าเดิม

ไม่อายแล้ว ไม่ไหวแล้ว มันเสียว มันซ่าน มันสะท้านไปทั้งร่างกาย

จากที่เจ็บเสียดในตอนแรก กลับกลายเป็นเสียวซ่านจนแทบบ้า ไม่อยากให้หยุดขยับเลย ไม่อยากหยุดถูกกระแทกกระทั้นเข้าใส่เลย อยากให้ฝิ่นทำอีก ทำเรื่อยๆ ทำให้แรงมากกว่านี้

นี่สินะความรู้สึกที่ผมเคยสงสัย... นี่คือคำตอบของคำถามสินะ

“ฝิ่นนนนนนน อื้ออออออออ” ไม่มีอะไรน่าอายอีกแล้ว ผมเรียกร้องสัมผัสจากมันครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งถูกจับเอวแน่นและถูกสวนร่างกายเข้าหาอย่างหนักติดต่อกันจนร่างโยกไหวไปพร้อมแรงกระทำของคนด้านบน ผมยิ่งมีความสุข สุขเสียจนไม่อยากให้ รักจบลงง่ายๆ

“แอ้มครับ... รักแอ้มนะ รักที่สุดเลย อ้า...” ถูกกอดแน่นและถูกพลิกให้ขึ้นมาอยู่ทางด้านบน ร่างกายของเรายังคงเป็นหนึ่งเดียวกัน ผมรู้ว่าตัวเองควรทำอะไร รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ

“ทำนะครับ... ทำให้ฝิ่นหน่อยได้มั้ย” ณ วินาทีนี้ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้อีกแล้ว ผมนาบฝ่ามือลงบนอกแกร่ง ค่อยๆ ยกร่างขึ้นเล็กน้อยและกดสะโพกลงไป ยกขึ้น กดลง ทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เชิดหน้าขึ้นกัดปากเล็กน้อย มันให้ความรู้สึกดีมาก แตกต่างจากตอนที่ถูกกระทำ เป็นฝ่ายได้ควบคุมบ้างมันก็รู้สึกดีไม่น้อย

เสียงเตียงนอนเสียดสีกันดังเอี๊ยดอ๊าด เสียงร่างกายกระทบกันดังประสานไปกับเสียงร้องครางสั่นของผมกับฝิ่น เราสองคนกอดรัดและพลิกร่างกันไปมา สลับกันมอบความสุขให้อีกฝ่าย อาการเจ็บเสียดคลายลงมาแล้ว เหลือแค่ความเสียวสะท้านจนร่างกายเกินจะทานทนไหว

ผมถูกจับเปลี่ยนท่ามาเป็นหมอบคลาน ฝิ่นเกาะเอวผมแน่น ผมซบหน้าลงบนหมอน ทั้งจิกเกร็งนิ้วมือแน่น ทั้งกัดปากตัวเองยามถูกสวนร่างกายเข้าหาเต็มที่ ฝิ่นมันเก่งมาก มันมีวิธีทำให้ผมได้เรียนรู้ความรู้สึกใหม่ๆ ไม่ว่าจะถูกกระทำอย่างไร ผมก็ไม่ขัดขืนและไม่ร้องห้าม

มีความสุขจะตายอยู่แล้ว มีความสุขจนแทบเป็นบ้า

ลิ้นร้อนชื้นไล่เลียไปทั่วแผ่นหลัง ผมค้ำยันร่างกายตนเองเพื่อรับแรงกระแทกกระทั้นของฝิ่นที่ส่งมาอย่างหนักหน่วง เล่นเอาผมแทบทรุด แต่มันก็รั้งเอวเอาไว้ และเร่งจังหวะกระแทกเข้าใส่ผมแทบจุก

ร่างหนาโน้มร่างลงมานาบทับบนแผ่นหลัง มืออีกข้างสอดเข้าไปรูดรั้งแกนกายผมอย่างหนักหน่วง เพราะมันกำลังจะปลดปล่อยอารมณ์แล้ว และฝิ่นก็คงอยากให้ผมได้ปล่อยอารมณ์ไปพร้อมๆ กัน

“แอ้ม... ฝิ่น... ไม่ไหวแล้ว” ผมกัดปากแน่น เพราะผมเองก็เริ่มจะทานอารมณ์ไม่ไหวแล้วเช่นกัน ร่างกายเริ่มเกร็งสะท้าน จังหวะที่ร่างหนาสวนแรงกระแทกเข้ามาหนักๆ เป็นครั้งสุดท้าย ผมก็ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาจนหมด... ฝิ่นเองก็เช่นกัน

“อ๊า...” ผมทิ้งร่างลงนอนหายใจหอบ ร่างหนาถอนร่างกายออกและปลดปล่อยมันนอกร่างกายของผม ฝิ่นทิ้งตัวลงนอนซ้อนทับทางด้านหลัง โอบกอดผมแนบแน่น ยามนี้เหลือเพียงเสียงหอบหายใจของเรา ในขณะที่ห้องข้างๆ ยังคงมีเสียงเล็ดลอดมาอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งผมคิดว่า... อีกไม่นานห้องของผมก็คงไม่ต่างกัน

..........CUT……….

“เป็นของฝิ่นแล้วนะครับ...” ปากหยักจูบลงบนเปลือกตา นอนกอดก่ายกันอยู่สักพัก พอเริ่มหายใจหายคอถนัด มือหนาก็เริ่มไล้ไปทั่วร่างกายผมอีกหน

“หนวด!!! กูอยากเป็นของมึงอีกสักรอบ... ได้มั้ย” แน่นอนว่าไอ้หนวดไม่มีทางปฏิเสธ และผมก็ไม่อาจปฏิเสธใจตัวเองได้อีกแล้ว

อีกครั้ง... อีกครั้ง ... จะอีกกี่ครั้งก็ได้... ถ้าเป็นคนๆ นี้

คนสำคัญที่ผมรักอย่างหมดหัวใจ... ไอ้หนวด!!!

……….100%..........

 อ่านจบแล้ว รบกวนกลับไปเม้นที่หน้าบทความด้วยนะคะ ^^ 



Wednesday, November 25, 2015

CUT พลิกล้อกให้ลงรัก ตอนที่ 19 ลึกซึ้ง



 19. ลึกซึ้ง

มื้อเย็นของวันนี้ ไอ้ฝิ่นตั้งใจว่าจะทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าให้กิน มันยืนหน้ามุ่งมั่นอยู่หน้าเตา เห็นหน้าเถื่อนๆ โหดๆ แบบนั้นก็ทำอาหารได้นะครับ แถมยังรสชาติใช้ได้เลยด้วย ผมชอบนั่งมองมันทำอาหาร ไม่ได้พิศวาสอะไรหรอก แค่รู้สึกว่ามันโคตรไม่เข้ากันกับผ้ากันเปื้อนลายเป็ดเหลืองบีดั๊กเลยสักนิด

“อ๊ะ!!” เห็นมันชักมือออกจากเขียง ผมเดินเข้าไปดูแต่ไอ้ฝิ่นก็ซ่อนมือเอาไว้ทางด้านหลังในทันที

“มีดบาดหรอวะ ไหนมาดูซิ” มันหมุนตัวหนี ไม่ยอมให้ผมได้เห็นบาดแผล ไอ้ฝิ่นเดินไปหยิบกระดาษทิชชู่ มันหันหลังหลบไปเช็ดเลือดอยู่คนเดียว

“ไม่เป็นไรหรอก แค่แผลเล็กๆ น่ะ คนกลัวเลือดอย่ามาดูเลย เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาอีก กูไม่ชอบเห็นมึงทรมานหรอกนะแอ้ม” ผมได้แต่ระบายลมหายใจออกมาช้าๆ มองแผ่นหลังกว้างของคนที่หันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารต่อด้วยความคิดมากมายในใจ

ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ไอ้ฝิ่นก็นึกถึงผมก่อนเสมอ ถ้าหากผมจะชอบมันมากกว่าเมื่อวานนี้ คงไม่แปลกเลย ความดี ความอ่อนโยน ความอบอุ่น และความจริงจังจริงใจที่มันมีให้ เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมชอบมันได้อย่างง่ายดาย

ผมเดินเข้าไปยืนซ้อนทางด้านหลัง สวมกอดเอวหนาและโถมร่างกายเข้าไปแนบชิดกับร่างสูงตรงหน้า มันหันกลับมามองด้วยรอยยิ้ม ผมซบหน้าร้อนผ่าวลงบนแผ่นหลังกว้าง ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะได้รับความรักมากมายจากใครสักคนแบบนี้

ยิ่งกับผู้ชายด้วยกัน ยิ่งกับผู้ชายที่ผมไม่ชอบหน้าในตอนแรกแบบไอ้ฝิ่น เรื่องพวกนี้ไม่เคยอยู่ในหัวผมเลยสักนิด

“ชอบนะ... เวลาที่แอ้มแสดงออกว่ารู้สึกยังไงกับฝิ่น รู้หรือเปล่าว่าฝิ่นมีความสุขมากแค่ไหน ขอบคุณนะครับ”

“กูต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณ เพราะมึงดีกับกูมาก ดูแลเอาใจใส่กูทุกอย่าง กูรับรู้ได้ด้วยใจว่ามึงดีกับกูมากแค่ไหน... ขอบคุณนะหนวด” การแสดงความรู้สึกออกมาตามตรงมันดีอย่างนี้นี่เอง มันทำให้รู้สึกเป็นสุข ทำให้คนรับก็มีความสุขตามไปด้วย

“บอกแล้วว่าเพราะรัก รักแอ้มมากเลยนะรู้มั้ย อย่าคิดหนีไปไหนนะ เพราะฝิ่นจะกอดเอาไว้แน่นๆ ไม่ยอมให้ได้หายไปไหนเลย” ไอ้หนวดหันกลับมายืนเผชิญหน้า มือหนาเช็ดลงบนผ้ากันเปื้อน ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสวมกอดเอวผมแนบแน่น รอยยิ้มหนวดๆ ของมัน สายตาพราวระยับ ความรู้สึกฉายชัดเจนบนดวงตาคมเข้ม

“ปากหวานใส่ทุกคนแบบนี้หรือเปล่าวะ” แค่คิดว่ามันไปปากหวานใส่คนอื่นก็ไม่ชอบใจแล้ว พอชอบมากขึ้น ความหวงความหึงก็มาเต็มเช่นกัน

“กับคนที่ไม่ชอบ จะไปปากหวานใส่ทำไม เสียเวลาจะตายไป นี่เพราะเป็นแอ้มหรอกนะ ถึงได้ปากหวานใส่แบบนี้... แต่ปากแอ้มก็หวานนะ... มากๆ ด้วย” นิ้วเรียวเกลี่ยริมฝีปากผมแผ่วเบา ใบหน้าดูดีเคลื่อนเข้ามาใกล้ รอยยิ้มละมุนส่งตรงมายังหัวใจ ไม่ว่าผมจะพยายามต่อต้านสักเท่าไหร่ กลับยิ่งเผลอใจให้ไอ้หนวดเข้ามาจับจองพื้นที่ได้มากกว่าเดิมทุกที

“ปากทั้งนุ่มทั้งหวาน จนไม่อยากหยุดสัมผัสเลยด้วยซ้ำ แอ้มทำอะไรกับฝิ่นกันนะ ทำไมถึงได้หลงรักมากขึ้นทุกวันแบบนี้” อ้อมแขนแกร่งกอดรัดเอวกระชับมากยิ่งขึ้น ร่างกายเราเบียดเสียดเข้าหากัน ผมถูกคลอเคลียทั่วใบหน้า ไรหนวดอ่อนเกลี่ยแก้มไปมาจนรู้สึกยุกยิกไปทั้งร่างกาย

“กูอยู่ของกูเฉยๆ มึงมาหลงรักกูเอง... ไม่ใช่หรือไง” เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอ จมูกโด่งฝังลงบนแก้มและหอมแรงๆ ผมรู้สึกระทวยอยู่ในอ้อมแขนแสนอบอุ่น ต้องยกมือขึ้นคล้องคอเพื่อเหนี่ยวรั้งร่างกายเอาไว้ ไม่เช่นนั้นคงได้แข้งขาอ่อนจนพาให้ร่างกายทรุดลงไปเป็นแน่

“ก็ไม่ผิดหรอกครับ แอ้มอยู่เฉยๆ ฝิ่นดันไปตกหลุมรักเอง จะมาเรียกร้องความรับผิดชอบจากแอ้มก็ไม่ได้ด้วยสิ แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ ฝิ่นเต็มใจเดินตกลงไปในหลุมเอง ต่อให้แอ้มนึกอย่างจะไล่ขึ้นมาแค่ไหน ก็ไม่ยอมขึ้นแล้วล่ะ” อยู่ดีๆ ไอ้ฝิ่นก็อุ้มผมจนตัวลอย มันยกร่างผมให้ขึ้นมานั่งบนเคาน์เตอร์ว่าง แทรกร่างเข้าระหว่างขา มือหนากุมมือทั้งสองข้างไปนาบทับลงบนใบหน้าคมเข้ม

“จะทำอะไร...”

“ก็แค่อยากเห็นสีหน้าแอ้มชัดๆ เท่านั้นเอง เวลาแอ้มเขินจนหน้าแดงแบบนี้ น่าฟัดมากเลยน้า... ขอฟัดได้มั้ยครับ” เป็นคำขอที่ทำให้หัวใจผมเต้นระรัว เพราะมันไม่ได้อ้อนด้วยน้ำเสียงเพียงอย่างเดียว แต่สายตา สีหน้า และรอยยิ้มของไอ้หนวด ทำให้ผมปากหนักเหลือเกิน ทั้งที่ตั้งใจอยากจะเอ่ยปฏิเสธออกไป แต่ทำไมถึงได้นิ่งเฉย ยอมให้มันซุกหน้าลงบนหน้าท้องได้แบบนี้กัน

“หนวด... อย่า...” แม้จะเอ่ยห้ามออกไป แต่น้ำเสียงช่างสั่นสะท้าน มันแสดงให้รู้ว่าผมกำลังหวั่นไหวและคล้อยตามมันไปเรียบร้อยแล้ว

“ก็แอ้มอยากน่ารักเองทำไม ใครจะไปทนได้กันล่ะครับ” นอกจากมันจะเก่งเรื่องโยนความผิดให้แล้ว ไอ้หนวดยังเก่งเรื่องดึงผมให้จมลงสู่ภวังค์ความรู้สึกได้อีกด้วย ยามที่ปากหยักเม้มผิวกายผ่านเนื้อผ้า ยามถูกปากหยักรุกรานไปทั่วอย่างเอาแต่ใจและถืออำนาจ ผมไม่อาจจะทานทนได้ไหว
ทำไมหัวใจถึงได้ละลายอย่างง่ายดายแบบนี้กันนะ

……….CUT………

“กูไม่ได้ชอบหรอกนะ มาชมว่าน่ารักอยู่ได้...” ผมจำต้องกัดปากแน่นเมื่อถูกมือหนาสอดเข้ามาลูบวนตรงหน้าท้อง ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้เลยขึ้นไปตรงหน้าอก ยามเมื่อนิ้วมือลูบผ่านจุดกระตุ้นอารมณ์ไปมา หัวใจก็เต้นระรัวราวกับกลองที่ถูกตีให้ดังลั่นสนั่นหวั่นไหว

“ทำบ้าอะไรวะ...”

“ก็แค่สัมผัสเองครับ คนคบกัน รักกัน อยู่ด้วยกันทุกวัน มันจะไม่เกิดความต้องการได้ไง... ที่ทุกวันนี้ไม่ทำอะไร ก็เพราะให้เกียรติแอ้มหรอกนะ... แต่วันนี้แอ้มน่ารักเป็นพอเศษ ก็เลยยิ่ง น่าแอ้ม เป็นพิเศษ...” ไอ้หนวดไม่ได้ทำเพียงแค่พูดเท่านั้น มันก้มจูบตรงอกด้านซ้าย ประกบริมฝีปากลงบนจุดแข็งชั้นที่ผ่านการกระตุ้นจากฝ่ามือเมื่อครู่ 

ผมสั่นสะท้านยามเมื่อถูกริมฝีปากขบจูบดูดดุน ถูกลิ้นชื้นตวัดเลียผ่านเนื้อผ้าจนเปียกชุ่ม มือไม้ไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะละลายไปพร้อมๆ กับหัวใจที่ไร้กำแพงป้องกัน

“หนวด... ทำบ้าอะไร” เมื่อพยายามรวบรวมแรงที่มีเหลืออยู่น้อยนิดมาได้ ก็ทุบลงบนหลังกว้างดังอัก แต่คงไม่อาจทำให้ไอ้ฝิ่นสะทกสะท้านได้เลยแม้แต่น้อย มันยิ้มรับท่าทีของผม

“ทำความคุ้นเคยไงครับ นี่แค่เริ่มต้นเองนะแอ้ม ของจริงมันต่อจากนี้ต่างหาก” เมื่อพูดจบ ไอ้หนวดก็ไม่รั้งรอให้เสียเวลา มันกอดเอวผมและออกแรงดึงให้ลงมาจากเคาน์เตอร์ ตัวผมลอยอยู่เหนือพื้น ถูกไอ้หนวดอุ้มเข้าเอวเอาไว้ มันทำเหมือนผมเป็นเด็ก เหมือนผมตัวเล็กและแสนเบา

“เลิกเล่นได้แล้ว ไม่งั้นกูโกรธนะ...”

“แล้วใครว่าเล่นล่ะครับ นี่จริงจังมากเลยนะ... แอ้มหนีฝิ่นไม่พ้นหรอก ต่อให้ตอนนี้หนีไปได้ วันข้างหน้าก็ ถูกแอ้ม อยู่ดี” ไอ้หนวดแกล้งเขย่าร่างผมไปมา เพราะว่ากลัวจะถูกแกล้งปล่อยทิ้งลงพื้น ผมจำต้องโอบกอดรอบคอมันเอาไว้แน่น ใช่ว่าอยากแนบชิดกันมันเสียเมื่อไหร่ แล้วหัวใจไม่รักดีก็ทำหน้าที่ประจานความรู้สึกของผมออกมาทุกทีเลยสิน่า

ตึก!! ตึก!!! ตึก!!!!

“ฝิ่น!!! กูไม่เล่นจริงๆ นะ” ความรู้สึกมันบอกให้ผมรู้ว่าครั้งนี้ไอ้หนวดไม่ได้ล้อเล่น ผมก็ไม่รังเกียจหรอกหากจะถูกมันกอดหรือจูบ เพราะผมก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้ผมรู้สึกดีเช่นกัน

แต่ถ้ามันมากกว่าการกอดหรือจูบล่ะ ผมยังไม่ทันเตรียมใจรอรับกับสิ่งเหล่านั้น มันจะออกมาในรูปแบบไหน มันจะรู้สึกยังไง ผมไม่รู้อะไรเลยสักนิด มันยังคงเป็นความกังวลที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ

“ฝิ่นก็ไม่เคยเล่นๆ กับแอ้มเลยน้า จริงๆ ตอนนี้ฝิ่นหิวมากเลยนะแอ้ม แต่สปาเก็ตตี้ไม่น่ากินเท่าแอ้มนี่สิ...ขอกินแอ้มได้มั้ย ถ้ากินจนอิ่มท้องเลยไม่ได้ ก็ขอชิมรองท้องหน่อยก็ยังดี... นะครับ นะ” ผมอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ออก เจอไอ้หนวดโหมดอ้อนร้องขอเข้าไป มันทำให้ผมรู้สึกว่ามันน่ารักได้ ผมคงไม่อาจทัดทานความรู้สึกที่ซ่อนลึกในใจได้อีกแล้วสินะ

“อะ... อื้อ อยากทำอะไรมึงทำเลยไอ้บ้า” ผมก้มลงกัดไหล่ไอ้หนวดเพื่อระบายความเขินอายจนแทบบ้า แม้ว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์รักกับผู้ชายมาก่อน แต่มันก็ไม่ยากจะจินตนาการว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน

“แอ้มน่ารักที่สุดเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ฝิ่นรักมากๆ ได้ยังไงกันล่ะ” ผมถูกพามาที่โซฟากลางห้อง ถูกวางร่างลงและถูกดันร่างให้เอนหลังนอนราบลงบนโซฟา ไอ้หนวดมันยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ มือทั้งสองข้างประทับลงบนใบหน้า นิ้วหัวแม่มือทั้งสองเกลี่ยแก้มเบาแผ่ว ผมยกมือขึ้นนาบใบหน้าคนด้านบน เหมือนความรู้สึกทั้งหมดของเราถูกถ่ายทอดให้แก่กันโดยที่เราไม่ต้องเอื้อนเอ่ยวาจาใดๆ

สายตาของเรามองสบประสาน หัวใจสองดวงเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ไอ้ฝิ่นก้มลงมาชิดใกล้ ดวงตาของมันมีเงาสะท้อนของผมฉายชัดอยู่ เช่นเดียวกับผมที่มีเงาสะท้อนของมันฉายอย่างชัดเจน

“แอ้มครับ... เชื่อใจฝิ่นนะ เรื่องของเรามันอาจจะเริ่มต้นอย่างผิดรูปผิดรอย แต่ตอนนี้มันเข้ารูปเข้ารอยแล้ว ฝิ่นรักแอ้มมากนะ ไม่ได้พูดให้เชื่อ แต่จะทำให้เชื่อว่าที่พูดมามันเป็นความรู้สึกที่แท้จริง” ปากหยักนาบทับลงบนกลีบปากแนบชิด ความรู้สึกมากมายถูกถ่ายทอดผ่านรสจูบแสนหวานชื่นและดูดดื่ม นิ้วมือเราสอดประสานเข้าหากัน ร่างหนาทิ้งน้ำหนักนาบทับลงมาเต็มกาย

ร่างกายผมสั่นสะท้านยามถูกสอดลิ้นเข้ามาไล่ต้อนไปทั่วปาก ทำใจกล้าส่งลิ้นมาตอบรับความท้าทายใหม่ที่ไม่เคยได้รับมาจากใครที่ไหนมาก่อน ยามเมื่อลิ้นเกี่ยวกระหวัดรัดตรึงกัน มันยิ่งเหมือนถูกดึงให้จมลงสู่ก้นบึ้งห้วงเสน่หา ยากจะทัดทานความต้องการที่ก่อเกิดได้อีก

มือหนาไล้ไปทั่วร่างกาย เสื้อยืดถูกถกขึ้นมากองอยู่เหนือราวนม นิ้วเรียวยาวกดคลึงจุดกระตุ้นอารมณ์ไปมา แรงบีบเค้นรุนแรงมากขึ้นตามความปรารถนา แต่ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเจ็บปวดจนไม่อาจทนได้ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นความเสียวกระสันเสียมากกว่า

ริมฝีปากของเราสองเหมือนมีแม่เหล็กมาดึงดูดเอาไว้ไม่ยอมปล่อยให้ห่างไกลจากกัน มือหนายังคงปัดป่ายบีบเค้นอกผมจนมันตอบสนองและตอบรับสัมผัสอย่างไม่อาจกักเก็บอารมณ์ใดๆ เอาไว้ได้

ผมเบียดเรียวขาเข้าหากัน ความรู้สึกสั่นไหวสะท้านในอารมณ์เล่นงานอย่างหนักจนทำให้ผมแทบเป็นบ้า ผมรับรู้ได้ถึงสัมผัสจากมือหนาที่เคลื่อนลงต่ำไปยังขอบกางเกง แต่ก็ถูกดึงความสนใจกลับยังรสจูบที่แสนดูดดื่มจนทำให้ผมลืมความเขินอายไปชั่วขณะ

“อืม...” เสียงร้องครางไม่อาจเล็ดลอดผ่านออกมาจากริมฝีปากเราได้ เมื่อเรายังคงประกบปากจูบกัน เหมือนไม่อาจจะถอนปากขึ้นจากจูบแสนระทวยหัวใจนี้ได้

“แฮ่ก... แฮ่ก...” ผมหอบหายใจกระชั้น กว่าจะเป็นอิสระจากจูบแสนยาวนาน เล่นเอาอากาศหายใจลดน้อยจนเกือบจะขาดห้วง แต่ไอ้หนวดก็ไม่ปล่อยให้ผมได้หายใจหายคอนานนัก มือหนาจับเรียวขาผมให้แยกออกจากกัน มันแทรกร่างกายเข้ามานั่งคุกเข่าตรงกึ่งกลางระหว่างขา ปิดท้ายด้วยการจับขาผมให้เกี่ยวเข้ากับเอว

“น่าแอ้มจังเลยครับ” ลิ้นสีชมพูเลียกลีบปากด้วยท่าทางแสนเจ้าเล่ห์ ในยามปกติไอ้หนวดจะหงอให้ผมข่มเหงได้เต็มที่ แต่พอถึงเวลาอย่างนี้ทีไร ผมกลายเป็นลูกแมวแสนเชื่องให้มันเล่นเนื้อเล่นตัวได้อย่างง่ายดาย

“เงียบไปเลย... กูเขินเป็นนะ” เพราะความเขินอายทำให้ไม่อาจมองหน้าไอ้ฝิ่นได้นานมากนัก ผมยกแขนขึ้นมาปิดทับดวงตาทั้งสองข้างเอาไว้ ใครมันจะไปทานทนได้ จะให้มานอนมองตัวเองถูกโลมเลียไปทั่วผิวกาย หัวใจได้วายพอดี

“แอ้มขาวจังแฮะ แค่ดูดเบาๆ ก็เป็นรอยแล้ว... อย่างนี้ก็ทำอะไรรุนแรงด้วยไม่ได้สิ... แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะฝิ่นก็ไม่คิดจะทำรุนแรงกับแอ้มอยู่แล้วล่ะ” ปากดีไม่มีใครเกิน ทั้งปากหวาน ทั้งช่างอ้อนแต่มันก็ไม่ได้ทำหรือพูดแบบนี้กับคนทุกคน เท่าที่ผมได้รู้ได้เห็นมา... ถ้าไม่คิดแบบเข้าข้างตัวเอง มันทำแบบนี้กับคนพิเศษเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีผมรวมอยู่ด้วย

“อย่าพูดมากได้มั้ย... เดี๋ยวกูเปลี่ยนใจนะ” ผมไม่ได้ขู่ ตอนนี้ผมไม่มีแรงมาขู่มันแล้ว เพียงแค่ถ้าผมอายมากๆ ผมอาจจะหนีจากความรู้สึกนี้ไป ด้วยการไม่ยอมให้หนวดมันได้ทำตามใจต้องการง่ายๆ

“เปลี่ยนใจตอนนี้ไม่ทันหรอกครับ... ก็แอ้มน่ะ... รู้สึกกับฝิ่นแล้วนี่นา” ไม่พูดเปล่า มือหนาวางลงบนเป้ากางเกงผมทันที มันลูบวนไปมาและกระซิบคำบางคำ ให้ผมรู้สึกเหมือนมีระเบิดเวลานับถอยหลังเตรียมพร้อมทำงานในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

“ตอนแรกก็แค่ตั้งใจของชิม แต่ตอนนี้ขอกินให้อิ่มเลยได้มั้ย... ครับ” มือหนาสอดเข้าไปในกางเกง ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกกอบกุมและลูบไล้ไปมา มันสัมผัสตรงส่วนนั้นของผม มันขยับมือไปมาเพื่อปลุกปั่นอารมณ์ผมให้ปั่นป่วนและสะท้านจนแทบบ้า

“หนวด... มึงแม่ง... อื้ออออ” ทุกครั้งที่เคยปลดปล่อยอารมณ์ให้ตนเอง ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ใช้ฝ่ามือขยับเพื่อตอบรับความรู้สึกในใจ ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทำให้ใจสั่นสะท้านได้เท่ากับครั้งนี้ ทั้งที่มันก็แทบไม่ต่างกัน สิ่งเดียวที่ต่างจากทุกครั้ง ก็คือได้หนวดเป็นคนกระทำให้ ไม่ใช่มือของผมเองเหมือนเช่นที่ผ่านมา

“ไม่ใช่เล่นๆ นะแอ้ม...” ผมไม่มีอารมณ์มาด่าหรือว่า ตอนนี้ร่างายมันตอบสนองสัมผัสจากมือหนาเต็มที่ สะโพกแอ่นขึ้นรับแรงขยับจากมือใหญ่ อกกระเพื่อมเพราะการหอบหายใจ ปากเผยอขึ้นรับรสจูบแสนตรึงหัวใจ ผมกำลังถูกปรนเปรอทุกทางจากผู้ชายที่ผมยอมรับอย่างเต็มใจว่าชอบ

หัวใจผมยังคงหวิวไหวและสั่นระรัว ยิ่งถูกมือหนารูดรั้งเร่งจังหวะถี่รัว ผมยิ่งกลัวหัวใจจะหยุดเต้นเพราะความรู้สึกแปลกใหม่ที่เล่นงานให้หัวใจทำงานผิดปกติ 

ไรหนวดอ่อนไล้ไปทั่วลำคอ ปากหยักเม้มเนื้ออ่อนที่แล้วที่เล่า ปากหยักประกบจูบไล่สัมผัสไปทั่วผิวกาย ไล่จากลำคอลงมาประกบที่อกทั้งสองข้าง ตวัดลิ้นเลียจุดกระสันจนอารมณ์สั่นสะท้านเล่นงานไม่หยุดหย่อน

“อื้อ... หนวด... กู... เสียว” ผมร้องออกไปอย่างไม่นึกอาย มาถึงขั้นนี้แล้วจะอายไปก็เท่านั้น ในเมื่อมันเดินไปข้างหน้าเต็มกำลัง จะให้หยุดลงกลางทางก็คงทำไม่ได้ ก็มีแต่จะต้องเดินไปให้ถึงจุดหมาย

“เดี๋ยวฝิ่นช่วยนะ” รอยยิ้มพึงพอใจของไอ้หนวดน่าหมั่นไส้ชะมัด มันหยุดการกระทำจากฝ่ามือ เปลี่ยนมาเป็นดึงรั้งกางเกงผมลงต่ำ และถอดมันออกจากร่างกาย เหวี่ยงทิ้งลงบนพื้นอย่างไร้เยื่อใย สายตาพราวระยับจ้องมองส่วนแข็งขืนที่ไร้อาภรณ์ปกปิด

“อย่ามองนานได้มั้ย... จะทำอะไรก็ทำไปสิ อ่า... อื้อ...” น่าอายที่พูดเหมือนเชิญชวนให้มันเล่นกับร่างกายผมได้เต็มที่ แต่ในยามที่อารมณ์ค้างคาและอยากได้รับการปลดปล่อยเต็มกำลังเช่นนี้ ไม่มีการเขินอายใดๆ เหลืออยู่อีกแล้ว สิ่งที่ไอ้ฝิ่นกำลังมอบให้ก็ทำให้รู้สึกดีจนแทบบ้า ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องน่าอายจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างความพึงพอใจให้ได้มากมายขนาดนี้

เพียงแค่สัมผัสจากมือหนาก็ทำให้ผมระทวยจนแทบตายคาอยู่ใต้ร่างของมัน นี่ยังเพิ่มเติมความร้อนระอุในใจด้วยปากที่ประกบจูบลงบนส่วนแข็งขืนชูชัน ลิ้นชื้นลากเลียโลมเล้าสร้างความเสียวซ่านให้ผมสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย

ยามเมื่อผมถูกปากหยักกลืนกินความปรารถนาเข้าไปในโพลงปาก ความอุ่นร้อนในช่องปากนั้นกระตุ้นความรู้สึกวูบวาบให้ผมแทบคลั่ง ยิ่งไอ้หนวดก้มหน้าลงครอบครองเข้าลึกสุดหยั่ง ยามเมื่อถอนริมฝีปากขึ้นจนเกือบสุดปลายและก้มลงครอบครองกลับเข้าไปอีกครั้ง ผมอยากจะคลั่งตายให้ได้เสียจริง

“อื้อ... หนวด... มัน... สุดยอด” นี่คือบทเรียนใหม่ให้ผมได้เรียนรู้ การถูกผู้ชายด้วยกันกอดจูบลูบคลำและทำอะไรที่มากกว่านั้น ไม่เคยอยู่ในความคิดของผมเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้ผมได้เรียนรู้แล้วว่า หากผู้ชายคนนั้นคือคนที่เราชอบ สัมผัสที่เกิดขึ้นจะแสนตราตรึงหัวใจให้สุขสมจนแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้

ผมถูกปากหยักรูดรั้งและครอบครองอย่างหนักหน่วงและแสนร้อนแรง แต่เหมือนว่าความต้องการของไอ้ฝิ่นจะมีมากจนเกินทานทนได้ มันถอนริมฝีปากขึ้นทำให้ผมเกิดความโหยหายและเสียดาย อยากให้มันทำต่อไปจนถึงจุดหมายปลายทางของอารมณ์

“หยุดทำไมวะ” ผมมองมือหนาที่เริ่มต้นแกะกระดุมและถอดกางเกงออกทิ้งไปแบบไร้ใยดี ไอ้ฝิ่นทิ้งร่างลงนอนนาบทับร่างกาย ไม่ให้ผมได้มองสำรวจได้นานนัก มันจ้องมองสบตา สื่อความต้องการและความปรารถนามาอย่างเปี่ยมล้น

“ช่วยฝิ่นหน่อยได้มั้ย... อยากเสร็จพร้อมแอ้มครับ” มือหนาจับมือผมให้ไปสัมผัสความแข็งขืน หัวใจผมเต้นระรัวมากขึ้นทุกขณะ ยิ่งเมื่อไอ้ฝิ่นสอดมือลงไปกอบกุมส่วนล่างของผมและเริ่มต้นขยับมือเร่งจังหวะระรัว ผมเหมือนคนที่กลัวจะถูกทิ้งเอาไว้กลางทาง จึงเริ่มต้นขยับสัมผัสจากฝ่ามือให้ขึ้นลงเป็นจังหวะ

เราสองคนประกบจูบกันอีกหน พร้อมๆ กับการปรนเปรอความสุขให้อีกฝ่ายด้วยมือที่ไม่อาจหยุดการกระทำได้ ผมปั่นป่วนและรู้สึกเสียวมวนในท้องความรู้สึกประหลาดวิ่งวนในร่างกาย เหมือนมันอยากจะไปให้ถึงจุดหมาย ยิ่งมือหนาขยับระรัวเท่าไหร่ ความต้องการอยากปลดปล่อยก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

รสจูบร้อนแรงแสนดูดดื่ม ลิ้นแลกลิ้น สัมผัสแลกสัมผัส ความเด่นชัดของอารมณ์เดินหน้าเต็มกำลังไม่อาจจะหยุดยั้งลงได้ ยิ่งเวลาเดินผ่าน ไฟแห่งความร้อนแรงยิ่งโหมลุกไหม้

“อ๊ะ... ไม่ไหวแล้ว กู... อ๊า...” ทั้งผมและไอ้หนวดต่างเกร็งร่างกายสั่นสะท้าน มือของเราทั้งคู่เร่งจังหวะถี่รัวจนท้ายที่สุดแล้ว ความอุ่นและความชื้นแฉะก็เปรอะเปื้อนเต็มทั้งฝ่ามือและหน้าท้องของเราทั้งคู่

...........CUT………

ผมหอบหายใจกระชั้น รู้สึกเหนื่อยล้าจนแม้แต่จะขยับเขยื้อนร่างกายยังกลายเป็นเรื่องยากเต็มที เสียงหอบหายใจของไอ้หนวดดังอยู่ข้างหู มันจ้องมองสบตาพร้อมกับยกนิ้วมือขึ้นมาใช้ปลายลิ้นตวัดเลียน้ำขาวขุ่นอย่างไร้ท่าทีรังเกียจใดๆ

“ไอ้หนวด!!!” ผมร้องทักท้วง แต่ไอ้หนวดกลับไม่สนใจ มันตวัดลิ้นเลียนิ้วมือทีละนิ้ว สายตาของมันไม่ละจากดวงหน้าผมไปเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่ามันกำลังกลืนกินผมไปพร้อมๆ กับสิ่งที่มันกำลังโลมเลียอยู่ในขณะนี้

“รสชาติของแอ้ม... อร่อยนะ” ไอ้หนวดยกยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าโรคจิต ไม่ว่ายังไงคนโรคจิตก็คือคนโรคจิต ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนสุดท้ายแล้วไอ้หนวดก็คือไอ้หนวดโรคจิตอยู่วันยังค่ำ

“ไอ้บ้า!!! เฮ้ยยยยย” ผมหัวใจตกลงไปยังตาตุ่มเพราะถูกไอ้ฝิ่นช้อนร่างให้ลอยขึ้นจากโซฟา  ผมยังไม่ทันเตรียมใจให้พร้อมกับอะไรที่มันเป็นขั้นกว่า

“ไม่ต้องกลัวนะครับ วันนี้ฝิ่นชิมพอแล้ว ไว้วันหลังจะขอกินให้อิ่มกว่านี้นะครับ... เล่นอร่อยไปทั้งตัวแบบนี้... หยุดใจยากมากเลยนะรู้มั้ย” ไอ้หนวดพาผมเข้ามาในห้องน้ำ เมื่อถูกปล่อยให้ยืนลงบนพื้น ผมกลับทรุดลงไปนั่งเสียได้ ขาแข้งไร้เรี่ยวแรงจะหยัดยืน ไอ้ฝิ่นต้องหิ้วปีกให้ลุกขึ้นมา มันกอดเอวเอาไว้แน่น หยิบฝักบัวมาจัดการเปิดน้ำชำระล้างร่างกายให้แก่เราทั้งคู่

“เอ่อ... ดีมั้ย...แบบ... กูถามว่ามันทำให้มึงรู้สึกดีมั้ย” ผมพูดรัวเร็วเมื่อไอ้หนวดแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ บ้าชะมัด บ้าฉิบหาย ไอ้บ้าเอ๊ย!!!

“ไม่ใช่แค่รู้สึกดีนะแอ้ม แต่เป็นสุขสุดๆ สุขอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน เพราะว่าเป็นแอ้ม เพราะเป็นคนที่ฝิ่นรัก... ฝิ่นมีความสุขมากครับ” มือหนาไล้ไปทั่วร่างกาย เรายืนแนบชิดจนร่างกายสัมผัสกันไปทุกสัดส่วน ยิ่งถูกมือหนาลูบไล้ล้างร่างกายให้จนทั่ว ยิ่งรับรู้ได้ถึงการดูแลเอาใจใส่ของไอ้ฝิ่นที่มีให้

“อื้อ!! กูก็มีความสุขเหมือนกัน...” ผมยื่นหน้าเข้าไปจูบไอ้ฝิ่นเบาๆ ก่อนจะผละออกและซุกหน้าลงบนไหล่ ปล่อยให้มันล้างเนื้อล้างตัวให้ต่อ ไม่สนใจรอยยิ้มกว้างจนตาเกือบจะปิดของไอ้หนวด ไม่สนใจหรอกเว้ย

ผมคงบ้าไปแล้วล่ะ บ้าเพราะชอบไอ้ฝิ่น บ้าเพราะดันไปมีใจให้คนแบบมันเข้า แต่ตอนนี้ผมเต็มใจบ้า เพราะว่ามันทำให้ผมมีความสุขจนไม่รู้ว่าจะสุขยังไง

เออ!! บ้าก็บ้า แต่บ้าแล้วมีความสุข ผมก็ยอมวะ


.................

อ่านจบแล้วไปเม้นที่บ้านนิยายกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่า XD