Wednesday, November 25, 2015

CUT พลิกล้อกให้ลงรัก ตอนที่ 19 ลึกซึ้ง



 19. ลึกซึ้ง

มื้อเย็นของวันนี้ ไอ้ฝิ่นตั้งใจว่าจะทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าให้กิน มันยืนหน้ามุ่งมั่นอยู่หน้าเตา เห็นหน้าเถื่อนๆ โหดๆ แบบนั้นก็ทำอาหารได้นะครับ แถมยังรสชาติใช้ได้เลยด้วย ผมชอบนั่งมองมันทำอาหาร ไม่ได้พิศวาสอะไรหรอก แค่รู้สึกว่ามันโคตรไม่เข้ากันกับผ้ากันเปื้อนลายเป็ดเหลืองบีดั๊กเลยสักนิด

“อ๊ะ!!” เห็นมันชักมือออกจากเขียง ผมเดินเข้าไปดูแต่ไอ้ฝิ่นก็ซ่อนมือเอาไว้ทางด้านหลังในทันที

“มีดบาดหรอวะ ไหนมาดูซิ” มันหมุนตัวหนี ไม่ยอมให้ผมได้เห็นบาดแผล ไอ้ฝิ่นเดินไปหยิบกระดาษทิชชู่ มันหันหลังหลบไปเช็ดเลือดอยู่คนเดียว

“ไม่เป็นไรหรอก แค่แผลเล็กๆ น่ะ คนกลัวเลือดอย่ามาดูเลย เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาอีก กูไม่ชอบเห็นมึงทรมานหรอกนะแอ้ม” ผมได้แต่ระบายลมหายใจออกมาช้าๆ มองแผ่นหลังกว้างของคนที่หันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารต่อด้วยความคิดมากมายในใจ

ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ไอ้ฝิ่นก็นึกถึงผมก่อนเสมอ ถ้าหากผมจะชอบมันมากกว่าเมื่อวานนี้ คงไม่แปลกเลย ความดี ความอ่อนโยน ความอบอุ่น และความจริงจังจริงใจที่มันมีให้ เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมชอบมันได้อย่างง่ายดาย

ผมเดินเข้าไปยืนซ้อนทางด้านหลัง สวมกอดเอวหนาและโถมร่างกายเข้าไปแนบชิดกับร่างสูงตรงหน้า มันหันกลับมามองด้วยรอยยิ้ม ผมซบหน้าร้อนผ่าวลงบนแผ่นหลังกว้าง ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะได้รับความรักมากมายจากใครสักคนแบบนี้

ยิ่งกับผู้ชายด้วยกัน ยิ่งกับผู้ชายที่ผมไม่ชอบหน้าในตอนแรกแบบไอ้ฝิ่น เรื่องพวกนี้ไม่เคยอยู่ในหัวผมเลยสักนิด

“ชอบนะ... เวลาที่แอ้มแสดงออกว่ารู้สึกยังไงกับฝิ่น รู้หรือเปล่าว่าฝิ่นมีความสุขมากแค่ไหน ขอบคุณนะครับ”

“กูต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณ เพราะมึงดีกับกูมาก ดูแลเอาใจใส่กูทุกอย่าง กูรับรู้ได้ด้วยใจว่ามึงดีกับกูมากแค่ไหน... ขอบคุณนะหนวด” การแสดงความรู้สึกออกมาตามตรงมันดีอย่างนี้นี่เอง มันทำให้รู้สึกเป็นสุข ทำให้คนรับก็มีความสุขตามไปด้วย

“บอกแล้วว่าเพราะรัก รักแอ้มมากเลยนะรู้มั้ย อย่าคิดหนีไปไหนนะ เพราะฝิ่นจะกอดเอาไว้แน่นๆ ไม่ยอมให้ได้หายไปไหนเลย” ไอ้หนวดหันกลับมายืนเผชิญหน้า มือหนาเช็ดลงบนผ้ากันเปื้อน ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสวมกอดเอวผมแนบแน่น รอยยิ้มหนวดๆ ของมัน สายตาพราวระยับ ความรู้สึกฉายชัดเจนบนดวงตาคมเข้ม

“ปากหวานใส่ทุกคนแบบนี้หรือเปล่าวะ” แค่คิดว่ามันไปปากหวานใส่คนอื่นก็ไม่ชอบใจแล้ว พอชอบมากขึ้น ความหวงความหึงก็มาเต็มเช่นกัน

“กับคนที่ไม่ชอบ จะไปปากหวานใส่ทำไม เสียเวลาจะตายไป นี่เพราะเป็นแอ้มหรอกนะ ถึงได้ปากหวานใส่แบบนี้... แต่ปากแอ้มก็หวานนะ... มากๆ ด้วย” นิ้วเรียวเกลี่ยริมฝีปากผมแผ่วเบา ใบหน้าดูดีเคลื่อนเข้ามาใกล้ รอยยิ้มละมุนส่งตรงมายังหัวใจ ไม่ว่าผมจะพยายามต่อต้านสักเท่าไหร่ กลับยิ่งเผลอใจให้ไอ้หนวดเข้ามาจับจองพื้นที่ได้มากกว่าเดิมทุกที

“ปากทั้งนุ่มทั้งหวาน จนไม่อยากหยุดสัมผัสเลยด้วยซ้ำ แอ้มทำอะไรกับฝิ่นกันนะ ทำไมถึงได้หลงรักมากขึ้นทุกวันแบบนี้” อ้อมแขนแกร่งกอดรัดเอวกระชับมากยิ่งขึ้น ร่างกายเราเบียดเสียดเข้าหากัน ผมถูกคลอเคลียทั่วใบหน้า ไรหนวดอ่อนเกลี่ยแก้มไปมาจนรู้สึกยุกยิกไปทั้งร่างกาย

“กูอยู่ของกูเฉยๆ มึงมาหลงรักกูเอง... ไม่ใช่หรือไง” เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอ จมูกโด่งฝังลงบนแก้มและหอมแรงๆ ผมรู้สึกระทวยอยู่ในอ้อมแขนแสนอบอุ่น ต้องยกมือขึ้นคล้องคอเพื่อเหนี่ยวรั้งร่างกายเอาไว้ ไม่เช่นนั้นคงได้แข้งขาอ่อนจนพาให้ร่างกายทรุดลงไปเป็นแน่

“ก็ไม่ผิดหรอกครับ แอ้มอยู่เฉยๆ ฝิ่นดันไปตกหลุมรักเอง จะมาเรียกร้องความรับผิดชอบจากแอ้มก็ไม่ได้ด้วยสิ แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ ฝิ่นเต็มใจเดินตกลงไปในหลุมเอง ต่อให้แอ้มนึกอย่างจะไล่ขึ้นมาแค่ไหน ก็ไม่ยอมขึ้นแล้วล่ะ” อยู่ดีๆ ไอ้ฝิ่นก็อุ้มผมจนตัวลอย มันยกร่างผมให้ขึ้นมานั่งบนเคาน์เตอร์ว่าง แทรกร่างเข้าระหว่างขา มือหนากุมมือทั้งสองข้างไปนาบทับลงบนใบหน้าคมเข้ม

“จะทำอะไร...”

“ก็แค่อยากเห็นสีหน้าแอ้มชัดๆ เท่านั้นเอง เวลาแอ้มเขินจนหน้าแดงแบบนี้ น่าฟัดมากเลยน้า... ขอฟัดได้มั้ยครับ” เป็นคำขอที่ทำให้หัวใจผมเต้นระรัว เพราะมันไม่ได้อ้อนด้วยน้ำเสียงเพียงอย่างเดียว แต่สายตา สีหน้า และรอยยิ้มของไอ้หนวด ทำให้ผมปากหนักเหลือเกิน ทั้งที่ตั้งใจอยากจะเอ่ยปฏิเสธออกไป แต่ทำไมถึงได้นิ่งเฉย ยอมให้มันซุกหน้าลงบนหน้าท้องได้แบบนี้กัน

“หนวด... อย่า...” แม้จะเอ่ยห้ามออกไป แต่น้ำเสียงช่างสั่นสะท้าน มันแสดงให้รู้ว่าผมกำลังหวั่นไหวและคล้อยตามมันไปเรียบร้อยแล้ว

“ก็แอ้มอยากน่ารักเองทำไม ใครจะไปทนได้กันล่ะครับ” นอกจากมันจะเก่งเรื่องโยนความผิดให้แล้ว ไอ้หนวดยังเก่งเรื่องดึงผมให้จมลงสู่ภวังค์ความรู้สึกได้อีกด้วย ยามที่ปากหยักเม้มผิวกายผ่านเนื้อผ้า ยามถูกปากหยักรุกรานไปทั่วอย่างเอาแต่ใจและถืออำนาจ ผมไม่อาจจะทานทนได้ไหว
ทำไมหัวใจถึงได้ละลายอย่างง่ายดายแบบนี้กันนะ

……….CUT………

“กูไม่ได้ชอบหรอกนะ มาชมว่าน่ารักอยู่ได้...” ผมจำต้องกัดปากแน่นเมื่อถูกมือหนาสอดเข้ามาลูบวนตรงหน้าท้อง ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้เลยขึ้นไปตรงหน้าอก ยามเมื่อนิ้วมือลูบผ่านจุดกระตุ้นอารมณ์ไปมา หัวใจก็เต้นระรัวราวกับกลองที่ถูกตีให้ดังลั่นสนั่นหวั่นไหว

“ทำบ้าอะไรวะ...”

“ก็แค่สัมผัสเองครับ คนคบกัน รักกัน อยู่ด้วยกันทุกวัน มันจะไม่เกิดความต้องการได้ไง... ที่ทุกวันนี้ไม่ทำอะไร ก็เพราะให้เกียรติแอ้มหรอกนะ... แต่วันนี้แอ้มน่ารักเป็นพอเศษ ก็เลยยิ่ง น่าแอ้ม เป็นพิเศษ...” ไอ้หนวดไม่ได้ทำเพียงแค่พูดเท่านั้น มันก้มจูบตรงอกด้านซ้าย ประกบริมฝีปากลงบนจุดแข็งชั้นที่ผ่านการกระตุ้นจากฝ่ามือเมื่อครู่ 

ผมสั่นสะท้านยามเมื่อถูกริมฝีปากขบจูบดูดดุน ถูกลิ้นชื้นตวัดเลียผ่านเนื้อผ้าจนเปียกชุ่ม มือไม้ไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะละลายไปพร้อมๆ กับหัวใจที่ไร้กำแพงป้องกัน

“หนวด... ทำบ้าอะไร” เมื่อพยายามรวบรวมแรงที่มีเหลืออยู่น้อยนิดมาได้ ก็ทุบลงบนหลังกว้างดังอัก แต่คงไม่อาจทำให้ไอ้ฝิ่นสะทกสะท้านได้เลยแม้แต่น้อย มันยิ้มรับท่าทีของผม

“ทำความคุ้นเคยไงครับ นี่แค่เริ่มต้นเองนะแอ้ม ของจริงมันต่อจากนี้ต่างหาก” เมื่อพูดจบ ไอ้หนวดก็ไม่รั้งรอให้เสียเวลา มันกอดเอวผมและออกแรงดึงให้ลงมาจากเคาน์เตอร์ ตัวผมลอยอยู่เหนือพื้น ถูกไอ้หนวดอุ้มเข้าเอวเอาไว้ มันทำเหมือนผมเป็นเด็ก เหมือนผมตัวเล็กและแสนเบา

“เลิกเล่นได้แล้ว ไม่งั้นกูโกรธนะ...”

“แล้วใครว่าเล่นล่ะครับ นี่จริงจังมากเลยนะ... แอ้มหนีฝิ่นไม่พ้นหรอก ต่อให้ตอนนี้หนีไปได้ วันข้างหน้าก็ ถูกแอ้ม อยู่ดี” ไอ้หนวดแกล้งเขย่าร่างผมไปมา เพราะว่ากลัวจะถูกแกล้งปล่อยทิ้งลงพื้น ผมจำต้องโอบกอดรอบคอมันเอาไว้แน่น ใช่ว่าอยากแนบชิดกันมันเสียเมื่อไหร่ แล้วหัวใจไม่รักดีก็ทำหน้าที่ประจานความรู้สึกของผมออกมาทุกทีเลยสิน่า

ตึก!! ตึก!!! ตึก!!!!

“ฝิ่น!!! กูไม่เล่นจริงๆ นะ” ความรู้สึกมันบอกให้ผมรู้ว่าครั้งนี้ไอ้หนวดไม่ได้ล้อเล่น ผมก็ไม่รังเกียจหรอกหากจะถูกมันกอดหรือจูบ เพราะผมก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้ผมรู้สึกดีเช่นกัน

แต่ถ้ามันมากกว่าการกอดหรือจูบล่ะ ผมยังไม่ทันเตรียมใจรอรับกับสิ่งเหล่านั้น มันจะออกมาในรูปแบบไหน มันจะรู้สึกยังไง ผมไม่รู้อะไรเลยสักนิด มันยังคงเป็นความกังวลที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ

“ฝิ่นก็ไม่เคยเล่นๆ กับแอ้มเลยน้า จริงๆ ตอนนี้ฝิ่นหิวมากเลยนะแอ้ม แต่สปาเก็ตตี้ไม่น่ากินเท่าแอ้มนี่สิ...ขอกินแอ้มได้มั้ย ถ้ากินจนอิ่มท้องเลยไม่ได้ ก็ขอชิมรองท้องหน่อยก็ยังดี... นะครับ นะ” ผมอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ออก เจอไอ้หนวดโหมดอ้อนร้องขอเข้าไป มันทำให้ผมรู้สึกว่ามันน่ารักได้ ผมคงไม่อาจทัดทานความรู้สึกที่ซ่อนลึกในใจได้อีกแล้วสินะ

“อะ... อื้อ อยากทำอะไรมึงทำเลยไอ้บ้า” ผมก้มลงกัดไหล่ไอ้หนวดเพื่อระบายความเขินอายจนแทบบ้า แม้ว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์รักกับผู้ชายมาก่อน แต่มันก็ไม่ยากจะจินตนาการว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน

“แอ้มน่ารักที่สุดเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ฝิ่นรักมากๆ ได้ยังไงกันล่ะ” ผมถูกพามาที่โซฟากลางห้อง ถูกวางร่างลงและถูกดันร่างให้เอนหลังนอนราบลงบนโซฟา ไอ้หนวดมันยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ มือทั้งสองข้างประทับลงบนใบหน้า นิ้วหัวแม่มือทั้งสองเกลี่ยแก้มเบาแผ่ว ผมยกมือขึ้นนาบใบหน้าคนด้านบน เหมือนความรู้สึกทั้งหมดของเราถูกถ่ายทอดให้แก่กันโดยที่เราไม่ต้องเอื้อนเอ่ยวาจาใดๆ

สายตาของเรามองสบประสาน หัวใจสองดวงเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ไอ้ฝิ่นก้มลงมาชิดใกล้ ดวงตาของมันมีเงาสะท้อนของผมฉายชัดอยู่ เช่นเดียวกับผมที่มีเงาสะท้อนของมันฉายอย่างชัดเจน

“แอ้มครับ... เชื่อใจฝิ่นนะ เรื่องของเรามันอาจจะเริ่มต้นอย่างผิดรูปผิดรอย แต่ตอนนี้มันเข้ารูปเข้ารอยแล้ว ฝิ่นรักแอ้มมากนะ ไม่ได้พูดให้เชื่อ แต่จะทำให้เชื่อว่าที่พูดมามันเป็นความรู้สึกที่แท้จริง” ปากหยักนาบทับลงบนกลีบปากแนบชิด ความรู้สึกมากมายถูกถ่ายทอดผ่านรสจูบแสนหวานชื่นและดูดดื่ม นิ้วมือเราสอดประสานเข้าหากัน ร่างหนาทิ้งน้ำหนักนาบทับลงมาเต็มกาย

ร่างกายผมสั่นสะท้านยามถูกสอดลิ้นเข้ามาไล่ต้อนไปทั่วปาก ทำใจกล้าส่งลิ้นมาตอบรับความท้าทายใหม่ที่ไม่เคยได้รับมาจากใครที่ไหนมาก่อน ยามเมื่อลิ้นเกี่ยวกระหวัดรัดตรึงกัน มันยิ่งเหมือนถูกดึงให้จมลงสู่ก้นบึ้งห้วงเสน่หา ยากจะทัดทานความต้องการที่ก่อเกิดได้อีก

มือหนาไล้ไปทั่วร่างกาย เสื้อยืดถูกถกขึ้นมากองอยู่เหนือราวนม นิ้วเรียวยาวกดคลึงจุดกระตุ้นอารมณ์ไปมา แรงบีบเค้นรุนแรงมากขึ้นตามความปรารถนา แต่ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเจ็บปวดจนไม่อาจทนได้ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นความเสียวกระสันเสียมากกว่า

ริมฝีปากของเราสองเหมือนมีแม่เหล็กมาดึงดูดเอาไว้ไม่ยอมปล่อยให้ห่างไกลจากกัน มือหนายังคงปัดป่ายบีบเค้นอกผมจนมันตอบสนองและตอบรับสัมผัสอย่างไม่อาจกักเก็บอารมณ์ใดๆ เอาไว้ได้

ผมเบียดเรียวขาเข้าหากัน ความรู้สึกสั่นไหวสะท้านในอารมณ์เล่นงานอย่างหนักจนทำให้ผมแทบเป็นบ้า ผมรับรู้ได้ถึงสัมผัสจากมือหนาที่เคลื่อนลงต่ำไปยังขอบกางเกง แต่ก็ถูกดึงความสนใจกลับยังรสจูบที่แสนดูดดื่มจนทำให้ผมลืมความเขินอายไปชั่วขณะ

“อืม...” เสียงร้องครางไม่อาจเล็ดลอดผ่านออกมาจากริมฝีปากเราได้ เมื่อเรายังคงประกบปากจูบกัน เหมือนไม่อาจจะถอนปากขึ้นจากจูบแสนระทวยหัวใจนี้ได้

“แฮ่ก... แฮ่ก...” ผมหอบหายใจกระชั้น กว่าจะเป็นอิสระจากจูบแสนยาวนาน เล่นเอาอากาศหายใจลดน้อยจนเกือบจะขาดห้วง แต่ไอ้หนวดก็ไม่ปล่อยให้ผมได้หายใจหายคอนานนัก มือหนาจับเรียวขาผมให้แยกออกจากกัน มันแทรกร่างกายเข้ามานั่งคุกเข่าตรงกึ่งกลางระหว่างขา ปิดท้ายด้วยการจับขาผมให้เกี่ยวเข้ากับเอว

“น่าแอ้มจังเลยครับ” ลิ้นสีชมพูเลียกลีบปากด้วยท่าทางแสนเจ้าเล่ห์ ในยามปกติไอ้หนวดจะหงอให้ผมข่มเหงได้เต็มที่ แต่พอถึงเวลาอย่างนี้ทีไร ผมกลายเป็นลูกแมวแสนเชื่องให้มันเล่นเนื้อเล่นตัวได้อย่างง่ายดาย

“เงียบไปเลย... กูเขินเป็นนะ” เพราะความเขินอายทำให้ไม่อาจมองหน้าไอ้ฝิ่นได้นานมากนัก ผมยกแขนขึ้นมาปิดทับดวงตาทั้งสองข้างเอาไว้ ใครมันจะไปทานทนได้ จะให้มานอนมองตัวเองถูกโลมเลียไปทั่วผิวกาย หัวใจได้วายพอดี

“แอ้มขาวจังแฮะ แค่ดูดเบาๆ ก็เป็นรอยแล้ว... อย่างนี้ก็ทำอะไรรุนแรงด้วยไม่ได้สิ... แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะฝิ่นก็ไม่คิดจะทำรุนแรงกับแอ้มอยู่แล้วล่ะ” ปากดีไม่มีใครเกิน ทั้งปากหวาน ทั้งช่างอ้อนแต่มันก็ไม่ได้ทำหรือพูดแบบนี้กับคนทุกคน เท่าที่ผมได้รู้ได้เห็นมา... ถ้าไม่คิดแบบเข้าข้างตัวเอง มันทำแบบนี้กับคนพิเศษเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีผมรวมอยู่ด้วย

“อย่าพูดมากได้มั้ย... เดี๋ยวกูเปลี่ยนใจนะ” ผมไม่ได้ขู่ ตอนนี้ผมไม่มีแรงมาขู่มันแล้ว เพียงแค่ถ้าผมอายมากๆ ผมอาจจะหนีจากความรู้สึกนี้ไป ด้วยการไม่ยอมให้หนวดมันได้ทำตามใจต้องการง่ายๆ

“เปลี่ยนใจตอนนี้ไม่ทันหรอกครับ... ก็แอ้มน่ะ... รู้สึกกับฝิ่นแล้วนี่นา” ไม่พูดเปล่า มือหนาวางลงบนเป้ากางเกงผมทันที มันลูบวนไปมาและกระซิบคำบางคำ ให้ผมรู้สึกเหมือนมีระเบิดเวลานับถอยหลังเตรียมพร้อมทำงานในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

“ตอนแรกก็แค่ตั้งใจของชิม แต่ตอนนี้ขอกินให้อิ่มเลยได้มั้ย... ครับ” มือหนาสอดเข้าไปในกางเกง ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกกอบกุมและลูบไล้ไปมา มันสัมผัสตรงส่วนนั้นของผม มันขยับมือไปมาเพื่อปลุกปั่นอารมณ์ผมให้ปั่นป่วนและสะท้านจนแทบบ้า

“หนวด... มึงแม่ง... อื้ออออ” ทุกครั้งที่เคยปลดปล่อยอารมณ์ให้ตนเอง ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ใช้ฝ่ามือขยับเพื่อตอบรับความรู้สึกในใจ ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทำให้ใจสั่นสะท้านได้เท่ากับครั้งนี้ ทั้งที่มันก็แทบไม่ต่างกัน สิ่งเดียวที่ต่างจากทุกครั้ง ก็คือได้หนวดเป็นคนกระทำให้ ไม่ใช่มือของผมเองเหมือนเช่นที่ผ่านมา

“ไม่ใช่เล่นๆ นะแอ้ม...” ผมไม่มีอารมณ์มาด่าหรือว่า ตอนนี้ร่างายมันตอบสนองสัมผัสจากมือหนาเต็มที่ สะโพกแอ่นขึ้นรับแรงขยับจากมือใหญ่ อกกระเพื่อมเพราะการหอบหายใจ ปากเผยอขึ้นรับรสจูบแสนตรึงหัวใจ ผมกำลังถูกปรนเปรอทุกทางจากผู้ชายที่ผมยอมรับอย่างเต็มใจว่าชอบ

หัวใจผมยังคงหวิวไหวและสั่นระรัว ยิ่งถูกมือหนารูดรั้งเร่งจังหวะถี่รัว ผมยิ่งกลัวหัวใจจะหยุดเต้นเพราะความรู้สึกแปลกใหม่ที่เล่นงานให้หัวใจทำงานผิดปกติ 

ไรหนวดอ่อนไล้ไปทั่วลำคอ ปากหยักเม้มเนื้ออ่อนที่แล้วที่เล่า ปากหยักประกบจูบไล่สัมผัสไปทั่วผิวกาย ไล่จากลำคอลงมาประกบที่อกทั้งสองข้าง ตวัดลิ้นเลียจุดกระสันจนอารมณ์สั่นสะท้านเล่นงานไม่หยุดหย่อน

“อื้อ... หนวด... กู... เสียว” ผมร้องออกไปอย่างไม่นึกอาย มาถึงขั้นนี้แล้วจะอายไปก็เท่านั้น ในเมื่อมันเดินไปข้างหน้าเต็มกำลัง จะให้หยุดลงกลางทางก็คงทำไม่ได้ ก็มีแต่จะต้องเดินไปให้ถึงจุดหมาย

“เดี๋ยวฝิ่นช่วยนะ” รอยยิ้มพึงพอใจของไอ้หนวดน่าหมั่นไส้ชะมัด มันหยุดการกระทำจากฝ่ามือ เปลี่ยนมาเป็นดึงรั้งกางเกงผมลงต่ำ และถอดมันออกจากร่างกาย เหวี่ยงทิ้งลงบนพื้นอย่างไร้เยื่อใย สายตาพราวระยับจ้องมองส่วนแข็งขืนที่ไร้อาภรณ์ปกปิด

“อย่ามองนานได้มั้ย... จะทำอะไรก็ทำไปสิ อ่า... อื้อ...” น่าอายที่พูดเหมือนเชิญชวนให้มันเล่นกับร่างกายผมได้เต็มที่ แต่ในยามที่อารมณ์ค้างคาและอยากได้รับการปลดปล่อยเต็มกำลังเช่นนี้ ไม่มีการเขินอายใดๆ เหลืออยู่อีกแล้ว สิ่งที่ไอ้ฝิ่นกำลังมอบให้ก็ทำให้รู้สึกดีจนแทบบ้า ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องน่าอายจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างความพึงพอใจให้ได้มากมายขนาดนี้

เพียงแค่สัมผัสจากมือหนาก็ทำให้ผมระทวยจนแทบตายคาอยู่ใต้ร่างของมัน นี่ยังเพิ่มเติมความร้อนระอุในใจด้วยปากที่ประกบจูบลงบนส่วนแข็งขืนชูชัน ลิ้นชื้นลากเลียโลมเล้าสร้างความเสียวซ่านให้ผมสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย

ยามเมื่อผมถูกปากหยักกลืนกินความปรารถนาเข้าไปในโพลงปาก ความอุ่นร้อนในช่องปากนั้นกระตุ้นความรู้สึกวูบวาบให้ผมแทบคลั่ง ยิ่งไอ้หนวดก้มหน้าลงครอบครองเข้าลึกสุดหยั่ง ยามเมื่อถอนริมฝีปากขึ้นจนเกือบสุดปลายและก้มลงครอบครองกลับเข้าไปอีกครั้ง ผมอยากจะคลั่งตายให้ได้เสียจริง

“อื้อ... หนวด... มัน... สุดยอด” นี่คือบทเรียนใหม่ให้ผมได้เรียนรู้ การถูกผู้ชายด้วยกันกอดจูบลูบคลำและทำอะไรที่มากกว่านั้น ไม่เคยอยู่ในความคิดของผมเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้ผมได้เรียนรู้แล้วว่า หากผู้ชายคนนั้นคือคนที่เราชอบ สัมผัสที่เกิดขึ้นจะแสนตราตรึงหัวใจให้สุขสมจนแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้

ผมถูกปากหยักรูดรั้งและครอบครองอย่างหนักหน่วงและแสนร้อนแรง แต่เหมือนว่าความต้องการของไอ้ฝิ่นจะมีมากจนเกินทานทนได้ มันถอนริมฝีปากขึ้นทำให้ผมเกิดความโหยหายและเสียดาย อยากให้มันทำต่อไปจนถึงจุดหมายปลายทางของอารมณ์

“หยุดทำไมวะ” ผมมองมือหนาที่เริ่มต้นแกะกระดุมและถอดกางเกงออกทิ้งไปแบบไร้ใยดี ไอ้ฝิ่นทิ้งร่างลงนอนนาบทับร่างกาย ไม่ให้ผมได้มองสำรวจได้นานนัก มันจ้องมองสบตา สื่อความต้องการและความปรารถนามาอย่างเปี่ยมล้น

“ช่วยฝิ่นหน่อยได้มั้ย... อยากเสร็จพร้อมแอ้มครับ” มือหนาจับมือผมให้ไปสัมผัสความแข็งขืน หัวใจผมเต้นระรัวมากขึ้นทุกขณะ ยิ่งเมื่อไอ้ฝิ่นสอดมือลงไปกอบกุมส่วนล่างของผมและเริ่มต้นขยับมือเร่งจังหวะระรัว ผมเหมือนคนที่กลัวจะถูกทิ้งเอาไว้กลางทาง จึงเริ่มต้นขยับสัมผัสจากฝ่ามือให้ขึ้นลงเป็นจังหวะ

เราสองคนประกบจูบกันอีกหน พร้อมๆ กับการปรนเปรอความสุขให้อีกฝ่ายด้วยมือที่ไม่อาจหยุดการกระทำได้ ผมปั่นป่วนและรู้สึกเสียวมวนในท้องความรู้สึกประหลาดวิ่งวนในร่างกาย เหมือนมันอยากจะไปให้ถึงจุดหมาย ยิ่งมือหนาขยับระรัวเท่าไหร่ ความต้องการอยากปลดปล่อยก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

รสจูบร้อนแรงแสนดูดดื่ม ลิ้นแลกลิ้น สัมผัสแลกสัมผัส ความเด่นชัดของอารมณ์เดินหน้าเต็มกำลังไม่อาจจะหยุดยั้งลงได้ ยิ่งเวลาเดินผ่าน ไฟแห่งความร้อนแรงยิ่งโหมลุกไหม้

“อ๊ะ... ไม่ไหวแล้ว กู... อ๊า...” ทั้งผมและไอ้หนวดต่างเกร็งร่างกายสั่นสะท้าน มือของเราทั้งคู่เร่งจังหวะถี่รัวจนท้ายที่สุดแล้ว ความอุ่นและความชื้นแฉะก็เปรอะเปื้อนเต็มทั้งฝ่ามือและหน้าท้องของเราทั้งคู่

...........CUT………

ผมหอบหายใจกระชั้น รู้สึกเหนื่อยล้าจนแม้แต่จะขยับเขยื้อนร่างกายยังกลายเป็นเรื่องยากเต็มที เสียงหอบหายใจของไอ้หนวดดังอยู่ข้างหู มันจ้องมองสบตาพร้อมกับยกนิ้วมือขึ้นมาใช้ปลายลิ้นตวัดเลียน้ำขาวขุ่นอย่างไร้ท่าทีรังเกียจใดๆ

“ไอ้หนวด!!!” ผมร้องทักท้วง แต่ไอ้หนวดกลับไม่สนใจ มันตวัดลิ้นเลียนิ้วมือทีละนิ้ว สายตาของมันไม่ละจากดวงหน้าผมไปเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่ามันกำลังกลืนกินผมไปพร้อมๆ กับสิ่งที่มันกำลังโลมเลียอยู่ในขณะนี้

“รสชาติของแอ้ม... อร่อยนะ” ไอ้หนวดยกยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าโรคจิต ไม่ว่ายังไงคนโรคจิตก็คือคนโรคจิต ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนสุดท้ายแล้วไอ้หนวดก็คือไอ้หนวดโรคจิตอยู่วันยังค่ำ

“ไอ้บ้า!!! เฮ้ยยยยย” ผมหัวใจตกลงไปยังตาตุ่มเพราะถูกไอ้ฝิ่นช้อนร่างให้ลอยขึ้นจากโซฟา  ผมยังไม่ทันเตรียมใจให้พร้อมกับอะไรที่มันเป็นขั้นกว่า

“ไม่ต้องกลัวนะครับ วันนี้ฝิ่นชิมพอแล้ว ไว้วันหลังจะขอกินให้อิ่มกว่านี้นะครับ... เล่นอร่อยไปทั้งตัวแบบนี้... หยุดใจยากมากเลยนะรู้มั้ย” ไอ้หนวดพาผมเข้ามาในห้องน้ำ เมื่อถูกปล่อยให้ยืนลงบนพื้น ผมกลับทรุดลงไปนั่งเสียได้ ขาแข้งไร้เรี่ยวแรงจะหยัดยืน ไอ้ฝิ่นต้องหิ้วปีกให้ลุกขึ้นมา มันกอดเอวเอาไว้แน่น หยิบฝักบัวมาจัดการเปิดน้ำชำระล้างร่างกายให้แก่เราทั้งคู่

“เอ่อ... ดีมั้ย...แบบ... กูถามว่ามันทำให้มึงรู้สึกดีมั้ย” ผมพูดรัวเร็วเมื่อไอ้หนวดแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ บ้าชะมัด บ้าฉิบหาย ไอ้บ้าเอ๊ย!!!

“ไม่ใช่แค่รู้สึกดีนะแอ้ม แต่เป็นสุขสุดๆ สุขอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน เพราะว่าเป็นแอ้ม เพราะเป็นคนที่ฝิ่นรัก... ฝิ่นมีความสุขมากครับ” มือหนาไล้ไปทั่วร่างกาย เรายืนแนบชิดจนร่างกายสัมผัสกันไปทุกสัดส่วน ยิ่งถูกมือหนาลูบไล้ล้างร่างกายให้จนทั่ว ยิ่งรับรู้ได้ถึงการดูแลเอาใจใส่ของไอ้ฝิ่นที่มีให้

“อื้อ!! กูก็มีความสุขเหมือนกัน...” ผมยื่นหน้าเข้าไปจูบไอ้ฝิ่นเบาๆ ก่อนจะผละออกและซุกหน้าลงบนไหล่ ปล่อยให้มันล้างเนื้อล้างตัวให้ต่อ ไม่สนใจรอยยิ้มกว้างจนตาเกือบจะปิดของไอ้หนวด ไม่สนใจหรอกเว้ย

ผมคงบ้าไปแล้วล่ะ บ้าเพราะชอบไอ้ฝิ่น บ้าเพราะดันไปมีใจให้คนแบบมันเข้า แต่ตอนนี้ผมเต็มใจบ้า เพราะว่ามันทำให้ผมมีความสุขจนไม่รู้ว่าจะสุขยังไง

เออ!! บ้าก็บ้า แต่บ้าแล้วมีความสุข ผมก็ยอมวะ


.................

อ่านจบแล้วไปเม้นที่บ้านนิยายกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่า XD

No comments:

Post a Comment