26. เสี้ยนหนาม
(ไปป์)
ผ่านเหตุการณ์บัดซบมาได้สัปดาห์กว่าๆ
ร่างกายของผมก็ดีขึ้นมากหลังจากที่ได้นอนพักอย่างเต็มที่
อารมณ์ของผมเองก็ดีขึ้นมาเช่นกัน
หลังจากที่ได้เห็นความฉิบหายของใครคนหนึ่งที่กล้ามาล้อเล่นกับคนอย่างผม
ไอ้นายไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ไม่ได้ถาม ไม่ได้สงสัย
หรือบางทีมันอาจจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าเป็นฝีมือของผม
เอาจริงๆ มันก็ไม่ใช่ฝีมือของผมสักหน่อย
ผมก็แค่บังคับให้ไอ้มาร์คมันทำก็เท่านั้น
เพราะถ้ามันไม่ทำผมก็จะเล่นงานมันก็เท่านั้นเอง
อีกอย่างไอ้มาร์คมันก็ไม่ได้แคร์อะไรกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
ไม่ได้เห็นหน้ามันเลยแม้แต่น้อย เพราะว่ามันช่ำชองกับเรื่องแบบนี้ไง
มีนาไม่ใช่คนแรกหรอกที่ถูกกระทำแบบนี้
เวลาที่จะใช้ใครสักคนก็ต้องดูให้เป็นว่าคนคนนั้นเหมาะกับงานที่ใช้ให้ทำหรือเปล่า
และไอ้มาร์คคือหมากที่เยี่ยมยอด เพราะมันตอบสนองความต้องการของผมได้เป็นอย่างดี
มันชอบเล่นสนุกกับชีวิตคนอื่น ถ้ามันเดินเข้าไปในชีวิตใคร
คนนั้นไม่ได้พบจุดจบที่ดีนักหรอก
โลกนี้มันอยู่ยากนะ
ถ้าไม่ทำตัวให้เหนือกว่าหรือทำตัวให้สามารถกดคนอื่นให้ต่ำกว่าได้
คงใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่ผมอยู่ได้ยากเต็มที
ผมมันคนประเภทเห็นความฉิบหายของคนที่ผมเกลียดแล้วรู้สึกดีเสียด้วยสิ
ยิ่งเห็นมีนาทรมานและเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากเท่าไหร่
ผมยิ่งอารมณ์ดีมากเท่านั้น
ถ้ามีนาจะโทษใครสักคนก็คงต้องโทษตัวเอง โทษที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
โทษที่กล้าส่งคนมาทำร้ายผม และโทษที่มีนาอยากจะกลับมาทวงไอ้นายคืน โทษข้อสุดท้ายนี่แหล่ะที่ทำให้ผมเกลียดมีนามากกว่าข้อไหนๆ
ไอ้นายเป็นผู้ชายของผม มันเป็นคนรักของผม
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมคนนี้ ใครก็ตามไม่ว่าจะใหญ่หรือกร่างมาจากไหน
ก็อย่าหวังจะมาแย่งคนของผมไปได้ ถ้าผมไม่ยอมปล่อยไอ้นายไปด้วยตัวของผมเอง
ใครก็อย่าหวังจะได้มันไป
การที่ผมจะรักใครได้สักคนมันไม่ใช่เรื่องง่าย
กว่าที่ผมจะยอมรับว่ารักไอ้นายและยอมคบกับมันอย่างเปิดเผย ผมต้องขัดแย้งกับตัวเองอยู่นานสองนาน
ผมยอมสูญเสียอิสรภาพที่ผมรัก เพื่อคบหากับไอ้นายเพียงคนเดียว
นั่นก็เพราะว่าผมรักมันเข้าแล้ว และถ้าผมรักใครหรือรักอะไรสักอย่าง
ผมจะหวงแหนและเก็บสิ่งนั้นเอาไว้กับผมให้นานที่สุด ต่อให้ผมไม่แสดงออกว่ารัก
แต่ผมก็รักและไม่ต้องการแบ่งความรักจากมันไปให้ใคร
“เฮ้อ...” ผมเอนกายพิงโซฟา นั่งไขว้ขาจ้องมองไปยังเบื้องหน้า
มองดูไอ้นายที่สาละวนกับการเก็บเสื้อผ้าที่เกลื่อนอยู่บนพื้นห้อง มีไอ้นายแค่คนเดียวก็พอแล้ว
มันสามารถทำเพื่อผมได้ทุกอย่างโดยไม่เกี่ยงเลยแม้แต่น้อย
ผมไม่ต้องการใครหน้าไหนทั้งนั้น ไม่มีใครที่ดีได้เท่ากับผู้ชายของผมอีกแล้ว
“ใจคอมึงจะไม่ไปใส่เสื้อผ้าให้มันดีๆ หรือไงวะ” มันหันมามองหน้า
ผมจิบไวน์อย่างสบายอารมณ์ ตอนนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้มีความสุข
เลยไม่รู้สึกหงุดหงิดเลยสักนิด
“ใส่ทำไม เดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี มึงคิดว่ากูจะพอง่ายๆ หรอวะ
มึงไม่ยอมนอนกับกูมาทั้งสัปดาห์ ให้กูหยุดแค่ครั้งเดียวน่ะหรอ... ยากว่ะ”
ผมสวมเสื้อคลุมแบบหลวมๆ เนื้อตัวเหนอะหนะไปด้วยอารมณ์ของไอ้นาย พอนึกถึงก็เริ่มรู้สึกรำคาญใจขึ้นมาหน่อยๆ
“เอาแต่ใจตัวเองดีนะ...” มันเดินเข้ามาหา
จับเชือกทั้งสองเส้นมัดให้เสื้อคลุมกระชับปิดบังร่างกายของผม
คิดว่าจะเดินเข้ามาถอดเสียอีก แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็ต้องถอดให้ผมอยู่ดี
“ทำเป็นพูดไปเถอะ ถึงยังไงมึงก็รักกูอยู่ดี นั่งลงตรงนี้ดิ”
ผมดึงไอ้นายให้นั่งลงข้างๆ ใช้ขาก่ายขามันเอาไว้อย่างไม่ยอมให้ลุกหนีไปง่ายๆ
พลิกตัวขึ้นนั่งทับบนขาและหันหน้าเข้าหามัน
โอบกอดรอบคอไอ้นายและส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ตามนิสัย
“พรุ่งนี้กูต้องอยู่คุยเรื่องโปรเจคกับพวกไอ้คิน อาจจะกลับช้าสักหน่อย
เพราะฉะนั้นกูขับรถไปเองนะ” ชายเสื้อคลุมแหวกออกกว้างอย่างท้าทายสายตาของไอ้คนที่เอาแต่จ้องมองผมอย่างไม่ละสายตาไปไหน
ถึงมันจะไม่ใช่คนพูดมาก แต่ความรู้สึกทุกอย่างก็แสดงออกทางสายตาได้เป็นอย่างดี
“ให้มันทำงานจริงๆ นะ ไม่ใช่ไปทำลายชีวิตใครเขาอีก”
กะแล้วว่าไอ้นายมันต้องรู้ เพราะมันไม่ใช่คนโง่ แต่ที่มันไม่พูดไม่ถามคงเพราะรู้ดีแก่ใจว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นมา
ดีไม่ดีก็จะทะเลาะกันอีก
“กูไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย มีแต่คนทำตัวเองทั้งนั้น ว่าแต่มึงเหอะไอ้นาย
กูไม่ได้กลับมาด้วยห้ามแวะข้างทางนะ กูไม่ค่อยไว้ใจอริไอ้เนมเท่าไหร่ มึงเสือกเกิดมาหน้าตาเหมือนมันทำห่าอะไรก็ไม่รู้
ต้องมารับความซวยจากมันอีก” ผมเกลียดไอ้เนมอย่างไม่มีเหตุผล
ต่อให้มันหน้าเหมือนไอ้นายก็ตาม แต่ผมก็ยังคงเกลียดมัน
และคงไม่มีวันญาติดีกับมันได้
ต่อให้มันจะเป็นคนที่ไอ้ซิกรัก หรือมันจะเป็นพี่ไอ้นาย
ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับผม ต่อให้มันถูกกระทืบตรงหน้าก็ช่างปะไร
ผมจะยืนกอดอกดูอย่างลุ้นๆ ว่ามันจะตายหรือเปล่า
ถ้ามันไม่ตายผมจะเข้าไปซ้ำให้มันตายด้วยตัวผมเอง
ไอ้ซิกเคยถามว่าทำไมผมถึงเกลียดไอ้เนม ทั้งๆ ที่มันหน้าเหมือนไอ้นายจนแทบจะแยกไม่ออก
ก็จริงที่มันหน้าตาเหมือนกัน แต่ก็มีแค่อย่างเดียวนั่นแหล่ะที่เหมือน
เพราะนอกจากหน้าตาแล้ว นิสัย สันดาน และรสนิยมของพวกมันก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สาเหตุที่ผมไม่ชอบไอ้เนมก็เพราะไอ้ห่านี่มันคอยยุคอยเป่าหูให้ไอ้นายเลิกยุ่งวุ่นวายกับผม
ในช่วงแรกๆ ที่ผมกับไอ้นายเป็นแค่เพื่อนนอนกันนั้น
ไอ้เนมมันเคยบอกว่าชอบคนแบบผมไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา
มันเคยกันไม่ให้ไอ้นายมายุ่งกับผมอยู่สักพัก
ด้วยการเรียกตัวไอ้นายกลับไปอยู่ที่บ้าน
แต่คิดว่าระหว่างมันที่เป็นพี่กับผมที่สามารถมอบความสุขให้ได้อย่างอิ่มเอมใจ
ไอ้นายมันจะเลือกใครมากกว่ากัน ไอ้เนมมันไม่รู้หรอกว่าความรักและความหลงใหลทำให้คนหูหนวกตาบอดและไม่เชื่อฟังคำเตือนใคร
สุดท้ายไอ้นายก็กลับมาหาผมอยู่ดี
และแน่นอนว่าเราก็รักกันดีจนถึงตอนนี้ หึ!
“มันก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นหรอกว่ะ ยังไงไอ้เนมมันก็พี่กู เพลาๆ
อาการเกลียดกันลงบ้างก็ดีนะ กูสงสารไอ้ซิก...”
“ถ้ามึงขอกูจะยอมลดความเกลียดไอ้เนมลงก็ได้ แต่แค่เปอร์เซ็นเดียวเท่านั้น
ไม่มากไปกว่านี้ ใครก็ตามที่คอยเป่าหูให้มึงเลิกรักกู กูก็จะเกลียดคนคนนั้น
นั่นแหล่ะเหตุผล” ผมเกลี่ยท้ายทอยสางเส้นผมไอ้นายเล่น
ขยับเข้าไปนั่งแนบชิดกับหน้าท้องแกร่ง เกี่ยวขาเข้าที่เอวของไอ้นาย
เป็นท่าที่ชวนให้รู้สึกอยากขยับตัวออกแรงเล่นเสียจริง
“มันไม่สำคัญว่าใครจะเป่าหูกูยังไง
คนที่จะตัดสินใจว่าจะรักหรือจะเลิกรักมันคือตัวกูเอง กับกูน่ะไม่เท่าไหร่
เพราะกูไม่สนใจอยู่แล้วเรื่องที่มึงกับไอ้เนมจะเกลียดกันมากแค่ไหน แต่กับไอ้ซิก...
มันคงลำบากใจ” ผมจิบไวน์และประกบปากไอ้นาย ป้อนไวน์ให้คนที่ดูพูดมากกว่าปกติ
เลียมุมปากที่มีคราบไวน์ไหลเปื้อนเล็กน้อย
ส่งยิ้มให้คนที่คว้าหัวใจของผมไปได้ทั้งดวง
“มึงคิดว่าไอ้ซิกมันอ่อนไหวมากขนาดนั้นเลยหรอวะ มึงไม่รู้จักมันดี
น้องกูไม่ใช่คนที่ไร้เดียงสา ต่อให้กูบอกให้มันเลิกกับไอ้เนม
ถ้ามันไม่ยอมมันก็ไม่มีทางเลิก มันไม่ใช่เด็กน้อยที่เชื่อฟังคำสั่งพี่ชายแบบใครบางคนสักหน่อย...”
ผมถูกมือแกร่งรั้งเอาให้ร่างขยับเข้ามาประชิดกับหน้าท้องแน่น
ก็แค่พูดจี้จุดในสิ่งที่ไอ้นายมันเคยเป็นก็เท่านั้น น่าขำชะมัด
ไม่คิดเลยว่ามันจะเชื่อฟังไอ้เนมจนถึงขนาดยอมกลับไปอยู่ที่บ้านอยู่พักใหญ่ จนผมต้องโทรไปอาละวาดใส่มันอยู่หลายครั้ง
และยื่นคำขาดว่าถ้ามันไม่กลับมา ผมก็จะไม่นอนกับมันอีก
ก็แค่นั่นแหล่ะ สองวันหลังจากนั้นมันก็กลับมาตายรังอยู่กับผมตามเดิม
สรุปไอ้เนมแพ้ผมแบบขาดลอยเลยทีเดียว
เพราะไอ้นายมันเลือกผมแทนที่จะเชื่อฟังพี่ชายมัน
“หรอวะ... เมื่อก่อนกูอาจจะเป็นน้องชายที่ดีเชื่อฟังพี่ชาย
แต่ตอนนี้กูขอเปลี่ยนบทเป็นผัวเลวๆ ที่ทำร้ายเมียตัวเองได้หรือเปล่าล่ะ...”
มันจับมือผมเอาไว้แน่น ดันให้ผมลงนอนบนโซฟาอีกครั้ง
ไอ้นายใช้ขากดทับร่างกายของผมไว้เสียแน่น
มันรวบมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้ที่เหนือหัว คว้าเอาเนคไทที่ถูกถอดโยนเอาไว้เมื่อชั่วโมงก่อนมาจัดการมัดมือผมเสียแน่น
“บางทีกูก็อยากเล่นบทโหดกับมึงบ้าง
เผื่อมึงจะเลิกหยิ่งจองหองกับกูสักที ชอบไม่ใช่หรอวะความรุนแรงน่ะ
เดี๋ยวกูจะจัดให้แบบมึงไม่ต้องขอเลยไอ้ไปป์”
คิดว่าผมจะเจ็บแค้นกับสิ่งที่ไอ้นายทำดีมั้ย ไม่เลยสักนิด เพราะมันถูกใจผมมากเหลือเกิน
กับบทบาทที่ไอ้นายมันยัดเยียดให้ บางทีผมก็อยากลองอะไรที่มันแปลกๆ ดูบ้าง
เผื่อว่าชีวิตมันจะมีรสชาติมากกว่านี้
“คิดว่ากูกลัวมั้ยวะ มึงก็รู้ว่ากูโปรดปรานความเจ็บปวดมากแค่ไหน
อย่างนี้ไม่เรียกว่าสั่งสอนหรอกไอ้นาย มันเรียกว่าการปรนเปรอความสุขให้กูต่างหาก”
ผมมองสบตากับไอ้นายอย่างท้าทาย มันยิ้มมุมปากนิดๆ อย่างเจ้าเล่ห์และมีเสน่ห์
เรียวขาของผมถูกแหวกให้แยกออกจากกัน ไอ้นายคุกเข่าลงบนโซฟาและจับขาผมให้ตั้งชันขึ้น
“คิดว่ามึงเก็บกดคนเดียวหรือไงวะ คิดว่ากูจะหยุดที่ครั้งเดียวได้หรอวะ
นอนบนเตียงเดียวกับมึงแล้วไม่เกิดอารมณ์กูคงตายด้านไปแล้ว...
อยากนอนกับกูมากใช่มั้ย วันนี้ถ้ามึงไม่หมดแรงตายกูจะไม่หยุดเลยคอยดู”
ผมแลบลิ้นเลียปากอย่างกระหายในสิ่งที่ไอ้นายจะมอบให้
ขอแค่เป็นมันไม่ว่าจะทำอะไรกับร่างกายนี้
ผมก็ยินดีและยินยอมอย่างไม่มีขัดข้องหรือโต้แย้งเลยแม้แต่น้อย
“กูก็อยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะเด็ดแค่ไหน
เห็นใครต่อใครอยากได้ไปทำผัวกันเหลือเกิน...”
ความท้าทายที่ผมเฝ้ารออยู่นั้นกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
ไอ้นายเองก็ไม่ได้ต่างไปจากผมสักเท่าไหร่
มันเองก็เสพติดร่างกายผมไม่แพ้ที่ผมเสพติดเซ็กส์ของมันนักหรอก
ไม่มีใครจะเหมาะเท่าเราสองคนอีกแล้ว... คุณว่างั้นมั้ย
ไอ้นายถอดเสื้อกล้ามโยนทิ้ง เผยให้เห็นร่างกายที่ผมแสนจะหลงใหล
ร่างที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างแข็งแรงและสมส่วน มือหนากระตุกปมเชือกที่รัดชุดคลุมออกจากกัน
แหวกสาบเสื้อทั้งสองข้างโชว์ร่างกายของผมที่เต็มไปด้วยร่องรอยการขบกัดและรอยดูดจากเซ็กส์รอยที่ผ่านพ้นไปเมื่อครู่
“มือกูไม่ว่างแบบนี้ มึงก็ช่วยปรนเปรอให้กูรู้สึกดีด้วยแล้วกัน
กูจะนอนรอให้มึงเอากูจนเสร็จสักรอบสองรอบ มันทรมานนะไอ้นายแต่ก็ท้าทายดีว่ะ”
ผมขยับมือที่ถูกมัดมาหนุนรองที่หัว ปล่อยให้ไอ้นายได้ทำตามที่ปรารถนา จะไม่ขัด
ไม่แย้ง และไม่ทำอะไรเลยสักนิด
ถึงจะทรมานมากแค่ไหนก็ตามที
แต่ผมเชื่อว่าไอ้นายจะมอบความสุขให้กับผมได้
โดยที่ผมไม่จำเป็นจะต้องลงมือทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
“กูอยากจะมัดปากมึงอีกอย่าง แต่คงไม่ดีเท่าไหร่ เพราะกูจะจูบมึงไม่ได้
และกูก็ยังอยากได้ยินเสียงครวญครางของมึงอยู่” ไอ้นายจับขาของผมเหยียดตรงขึ้น
มันแตะลิ้นลงบนเนื้อนุ่มตรงโคนขา ลากไล้ลิ้นลงมาเรื่อย
ประกบจูบและออกแรงดูดจนเนื้อเป็นรอยชัดเจน
“อ่า... ทำไปเรื่อยๆ เลยไอ้นาย” ความแตกต่างอย่างชัดเจนสำหรับไอ้นายกับผู้ชายคนอื่น
แค่มีคนมองผมด้วยสายตาที่สื่อให้รู้ว่าปรารถนาในร่างกายของผม
ไม่ว่าจะในสถานะไหนก็ตาม ผมจะรังเกียจและอยากจะกระทืบมันให้จมตีน
แต่กับไอ้นายมันช่างแตกต่าง ต่อให้มันไม่มีอารมณ์หรือไม่อยากทำก็ตามที
ผมจะกระตุ้นให้มันเกิดความรู้สึกและต้องตามใจผมในทุกสิ่งที่ผมต้องการ
ไม่ว่าจะความรุนแรงของเซ็กส์ ท่วงท่าที่แสนหนักหน่วงถึงใจ
ไอ้นายจะต้องปรนเปรอและรั้งผมเอาไว้ให้ได้ ด้วยเซ็กส์ของมัน
ด้วยความรักที่มันมีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ผมพาดขาไว้บนไหล่ไอ้นาย ขาอีกข้างเกี่ยวเข้าที่เอวของคนที่กำลังเลียเนื้ออ่อนตรงโคนขา
มันเม้มริมฝีปากอย่างแรง ใช้ปากขบแทนการใช้ฟันกัด ฝากรอยแดงเป็นจุดๆ
กระจัดกระจายไป
นิ้วยาวแตะลงบนยอดอกและกดคลึงอย่างหนัก
ผมสั่นสะท้านยามที่ถูกสัมผัสอย่างรุนแรง มันถึงใจผมจริงๆ
มันมีความสุขจนอยากได้รับความรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อย ไอ้นายจับขาผมออกจากบ่า
มันก้มหน้าลงมาแตะลิ้นลงบนส่วนแข็งขืนที่รอรับการปลดปล่อยอย่างเต็มที่
นิ้วมือทั้งสองข้างบีบเค้นหน้าอกผมอย่างหนัก ผมได้แต่ขยุ้มเส้นผมตนเองอย่างพยายามหักห้ามใจไม่เอามือออกมาปรนเปรอความสุขและความต้องการของตนเอง
“รู้มั้ยวะว่ามึงน่ารักมากที่สุดเวลาไหน... ก็เวลาที่มึงว่านอนสอนง่าย
ทำตัวน่ารักให้สมกับที่กูรักแล้วเอามึงมาทำเมีย...”
“ไอ้สัด!”
ผมด่าได้เพียงแค่คำเดียวเท่านั้น ไอ้นายขยับตัวขึ้นมาประกบปากปิดปากผมอย่างแรง
ใช้ลิ้นสอดเข้ามาปิดกั้นไม่ให้ผมสามารถพูดสิ่งใดได้ ผมดูดและกัด กัดลิ้นมันอย่างเอาคืนที่กล้าเรียกผมด้วยสรรพนามที่ผมไม่ชอบใจ
แต่ผมก็ต้องแพ้ให้มันจนได้ เพราะไอ้นายสามารถเอาคืนด้วยการเอื้อมมือลงไปสาวและรูดรั้งส่วนล่างของผมอย่างเร็วและหนักหน่วง
จนผมเผลอครางและปล่อยลิ้นมันให้เป็นอิสระ
“ต่อให้มึงไม่ชอบใจยังไง มึงก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่ามึงเป็นเมียกูไม่ได้หรอกไอ้ไปป์...
เพราะถ้ามึงไม่ยอมรับ กูก็คงต้องยกตำแหน่งเมียให้กับคนอื่น... สัดไปป์ กูเจ็บ”
ผมยกมือที่ถูกมัดขึ้นคล้องคอและดึงไอ้นายลงมา
ฝังคมเขียวลงบนไหล่ของมันอย่างแรงเพื่อสั่งสอน
จนกว่าจะพอใจผมถึงปล่อยคมเขี้ยวออกจากผิวกายของมัน
“ปากดีนักนะไอ้นาย แค่มึงคิดก็ผิดแล้ว ถ้ามึงกล้าทำแบบที่พูด
ผู้หญิงคนนั้น หรือใครก็ตามที่มึงกล้าไปเอา
กูจะตามไปราวีแม่งให้ตกนรกเหมือนอย่างที่มีนาเจอ...”
ไอ้นายกระตุกยิ้มอย่างร้ายกาจใส่
มันจับมือของผมออกจากรอบคอและกดร่างของผมให้ลงนอนที่โซฟาตามเดิม
“กูไม่ทำในสิ่งที่มึงไม่ชอบ
มึงเองก็ควรจะหัดทำและยอมรับในสิ่งที่กูชอบซะบ้าง ควรจะเจอกันคนละครึ่งทางไม่ใช่หรอวะ...”
“มึงก็รู้ว่ากูเกิดมาเพื่อเป็นคนถูกตามใจ ถ้ามึงรักกู
มึงต้องเดินมาหากูมากกว่าครึ่งทาง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คิดจะทิ้งกู
กูจะเดินตามกลับไปลากมึงกลับมาถึงที่ กล้าแลกมั้ยล่ะ
กูเจ้าคิดเจ้าแค้นและตามราวีไม่จบไม่สิ้นหรอกนะ... อื้อ”
ไอ้นายถอดกางเกงออกและขึ้นมานั่งคร่อมทับที่อกของผม
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคอในทันที
หัวใจผมเต้นระรัวด้วยความรู้สึกถูกใจ
มันคือสิ่งที่ผมหลงใหลและชื่นชอบมากที่สุด ไอ้นายไม่ต้องขยับตัวเข้ามาหา
ผมก็เงยหน้าเข้าไปใกล้และแตะลิ้นลนบนสิ่งที่ไอ้นายใช้มอบความสุขให้กับผมมาโดยตลอด
“อื้อ...” ไอ้นายขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้ผมได้ครอบครองสิ่งนั้นเข้าไปจนเต็มปาก
ปกติไอ้นายมักจะนอนนิ่งๆ ให้ผมทำการออรัลให้ แต่ครั้งนี้มันกลับมัดมือของผมเอาไว้
และจับผมนอนราบกับโซฟา แต่มันก็ยังคงรู้ใจผมเสมอ
มันจึงขยับตัวขึ้นมานั่งคร่อมที่อกของผม และเริ่มต้นสร้างความแปลกใหม่ที่แสนท้าทายให้
“อ่า... ไอ้ไปป์ มึงอย่ากัดสิวะ” ไอ้นายแกล้งสวนร่างกายเข้ามาหา
มันทำให้ผมอึดอัดและคับแน่นไปทั้งปาก
แต่มันก็รู้สึกดีและมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมากล้น
“จะมีใครถึงใจกูได้เท่ามึงอีกวะ ไม่มีหรอกไอ้ไปป์” ผมแทบไม่ได้ยินในสิ่งที่ไอ้นายพูด
มันดูอื้ออึงไปหมด ผมสนใจแต่สิ่งที่ผมกำลังเล่นด้วยปาก
รู้สึกได้ถึงนิ้วมือที่ขยุ้มเส้นผมจนยุ่งเหยิงไปหมด
“อ่า ไอ้ไปป์... แม่ง...”
ผมหลับตาทันทีที่ถูกของเหลวข้นกระเซ็นมาเปรอะเปื้อนเต็มหน้า
ได้แต่แลบลิ้นเลียมุมปากยามที่ไอ้นายก้มลงมาเช็ดใบหน้าให้
ชักอยากแกะมือออกเสียแล้ว อยากจะกอด อยากจะจับ
อยากจะจิกเล็บและลากปลายนิ้วลงบนร่างของไอ้นาย
“แกะมือให้กูที... กูอยากสัมผัสร่างกายมึง”
ผมปรือตามองมันด้วยสายตายั่วยวน ไอ้นายขยับลงมานั่งทับที่เอวของผม
ผมยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อให้ไอ้นายใช้ปากดึงเนคไทออก เพราะตอนนี้มือไอ้นายไม่ว่าง
มันกำลังรูดรั้งส่วนล่างให้กับผมอย่างเร็วและระรัว
เหมือนมันจะกลัวว่าผมจะทรมานหากไม่ได้รับการปลดปล่อยออกมาเสียหน่อย
ผมผลักไอ้นายให้ลุกขึ้นนั่งและตามไปนั่งทับบนหน้าขา
ถูไถส่วนแข็งขืนกับกล้ามท้องที่เป็นลอนของมัน โอบกอดรอบคอไอ้นายและประกบปากจูบลงไปอย่างแรง
ขยับสะโพกร่อนไปมาบนท่อนล่างของมัน สัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่ถูไถไปมา
อารมณ์ปรารถนาพุ่งพล่านในร่างกายจนปั่นป่วนไปหมด
“อื้อ...” มือหนาเอื้อมลงไปบีบเค้นที่บั้นท้ายอย่างแรง
บีบเค้นจนเจ็บไปหมด แต่ยิ่งเจ็บผมยิ่งชอบ ยิ่งแรงเท่าไหร่ยิ่งถึงใจเท่านั้น
“อ่า...” น้ำใสเชื่อมที่ริมฝีปากของเราทั้งคู่ ผมตวัดเลียปากไอ้นายไปทั่ว
เม้มเนื้อนุ่มแรงๆ ขบกัดเบาๆ
อย่างพยายามหักห้ามใจไม่เผลอตัวกัดปากมันจนเลือดไหลแบบครั้งก่อน
“กูจะทำให้มึงไปจากกูไม่ได้ มึงหนีกูไม่พ้นหรอกไอ้นาย”
ผมยกตัวขึ้นเล็กน้อย จับส่วนอ่อนไหวของไอ้นายและรูดรั้งไปมา
ไอ้นายมองหน้าผมเหมือนจะถามบางสิ่ง
“ไม่เอาถุงยาง... เจลไม่ต้อง ไอ้ที่มึงปล่อยเอาไว้ครั้งก่อนก็ทำมึงให้เข้ามาในตัวกูได้สบายๆ
อยู่แล้ว” ไม่ต้องรอให้มันเอ่ยถาม ผมอ่านสายตาไอ้นายได้ มันไม่ได้พูดอะไรนอกจากซุกหน้าลงบนอกและเลียไปทั่ว
ผมจับไหล่ทั้งสองข้างของไอ้นาย กดร่างกายลงไปช้าๆ กลืนกินส่วนนั้นของมันทีละน้อย
“อ่า... แน่นสัด ทำออกจะบ่อยแท้ๆ” ไอ้นายเม้มหน้าอกผมและดูดอย่างแรง
ขบกัดจนผมสะดุ้ง แต่ไม่สนใจหรอก ตอนนี้ผมสนการขย่มตัวบนร่างไอ้นายมากกว่า มือของมันช้อนบั้นท้ายผมเอาไว้
ยกขึ้นลงตามจังหวะที่ผมขย่มและร่อนลงบนร่างกายของมัน
“แม่งสุขเหี้ยๆ” ไม่เคยรู้สึกดีกับเซ็กส์ของใครเท่ากับของไอ้นายมาก่อน
มันคนเดียวเท่านั้นที่ตอบสนองความต้องการของผมได้อย่างถึงใจเป็นที่สุด
ก็อย่างที่บอกไปแล้ว ถ้าไม่ใช่ไอ้นาย
ใครหน้าไหนก็อย่าได้คิดจะมาสัมผัสร่างกายของผมได้เลย ไม่มีทางซะหรอก
ผมกอดคอไอ้นายและขบกัดลงบนไหล่ของมัน รอยฟันหลายรอยจากเซ็กส์ครั้งก่อนหน้ายังชัดเจนบนผิวกายของมัน
แต่ไอ้นายก็ไม่เคยห้ามหรือว่าอะไร มันยอมให้ผมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
“อื้อ...” ผมขย่มร่างกายขึ้นลง ไอ้นายเองก็แอ่นสะโพกสวนขึ้นมารับอย่างหนักหน่วงเช่นกัน
ความสุขมันแทบล้นทะลักออกมาจากร่างกายของผม ยิ่งถูกไอ้นายกอดจูบดูดเลียไปทั่วผิวกายมากเท่าไหร่
ยิ่งถูกสวนร่างกายเข้ามาหาหนักหน่วงแค่ไหน
ผมรู้สึกเหมือนคนกำลังล่องลอยอย่างไม่หาคำเปรียบเปรยให้ภาพถึงความสุขที่ผมได้รับได้
เพียะ!
ไอ้นายตีฝ่ามือลงบนบั้นท้ายของผมอย่างแรง
มันบีบเค้นและพลิกให้ผมนอนลงบนโซฟา มือหนาจับขาผมให้แยกออกจากกัน
มันสวนร่างกายเข้ามาจนสุดและเริ่มต้นขยับตัวเข้าออกเพื่อให้อารมณ์ต่อเนื่องจากเมื่อครู่
“แรงๆ ไอ้นาย ทำแรงๆ กูชอบ” ต่อให้ผมไม่ร้องขอไอ้นายก็จัดให้ผมอยู่แล้ว
ผมจิกเอวไอ้นายจมเล็บจมลงไปที่เนื้อของมัน
ยิ่งมันสวนร่างกายและโถมเข้ามาแรงเท่าไหร่ ผมยิ่งอิ่มเอมใจและมีความสุขมากเท่านั้น
“ร่างกายมึง... แม่งเด็ดเหี้ยๆ” มันก้มลงมาไซ้ที่ผิวกายไปทั่ว
ผมสอดมือลงไปรูดรั้งส่วนอ่อนไหวของผมอย่างหนักหน่วง
ดูท่าความปรารถนาของผมจะมีอยู่มากล้น ตอนนี้มันกำลังจะทะลักออกมาแซงหน้าไอ้นายไปแล้ว
“อ่า... กูไม่ไหวละไอ้นาย แม่งไวสัด” ผมรูดรั้งถี่รัว
เกร็งร่างกายกระตุกถี่ๆ ยามที่อารมณ์รักมันเปรอะเปื้อนที่มือไปหมด
ไอ้นายยิ้มเยาะอย่างน่าเอาส้นตีนฟาดหน้า แต่ผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้
เพราะตอนนี้ต้องเสพสุขจากเซ็กส์ของมันเสียก่อน ไว้ถ้าเสร็จเมื่อไหร่ค่อยสั่งสอนมันก็ยังไม่สาย
“กู... จะเสร็จละ... อ่า”
ความอบอุ่นที่เอ่อล้นอยู่ในร่างกายของผมอีกครั้ง ทำให้รู้สึกล่องลอยได้อีกหน
ไอ้นายทิ้งตัวลงนอนทับบนร่างกายที่เปรอะเปื้อนและเหนอะหนะ
หอบหายใจถี่รัวจนร่างสั่นไหว แต่เอาจริงๆ มันยังไม่หมดก๊อกหรอก
สำหรับผมยังสามารถต่ออีกรอบได้ในทันทีเลยด้วยซ้ำ
“ใจคอมึงจะไม่ให้กูได้พักเลยหรือไง”
มันเอ่ยถามเมื่อผมลูบไล้ร่างกายและเริ่มต้นจูบมันไปทั่วอย่างเรียกร้องอีกหน
“มึงบอกเองนะว่าถ้ากูไม่หมดแรงตายมึงจะไม่เลิก
พูดอะไรแล้วก็รับผิดชอบด้วยไอ้นาย...หึ” บอกแล้วไงว่าสำหรับผมแล้วไม่เคยพอแค่รอบหรือสองรอบ
และคนที่จะหมดแรงตายก็คงไม่ใช่ผม แต่คงเป็นคนที่พูดเสียมากกว่า
ขอเสพสุขกับรสรักที่ผมใฝ่ปรารถนาเสียก่อน
ก่อนที่พรุ่งนี้ผมจะไปตามหาคนที่ผมอยากเจอหน้าเพื่อเยาะเย้ยในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง
พรุ่งนี้เจอกันนะ... มีนา
..........
No comments:
Post a Comment