Sunday, November 9, 2014

NC #สินกำ #ยุ่งนัก 45. ของรักของหวง (โฟนแบงค์)



  45. ของรักของหวง


เมื่อกลับถึงห้องแบงค์ทิ้งตัวนอนบนโซฟาทันที โยนข้าวของทั้งหมดทิ้งเอาไว้ที่โซฟาอีกตัวอย่างไม่คิดจะใส่ใจ โฟนต้องเดินตามเข้ามาเก็บซากของแบงค์ตั้งแต่รองเท้าที่ปากประตู เก็บหนังสือหนังหากับกระเป๋าเงินให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

“มึงเคยคิดจะเก็บของให้เป็นระเบียบบ้างมั้ยครับที่รัก...”

“ใครที่รักมึง” โฟนยืนเท้าเอวมองดูคนรักที่นอนกระดิกเท้าเล่นมือถืออย่างสบายอารมณ์ ช่วงนี้แบงค์ค่อนข้างติดมือถือพอสมควร จะขอดูก็ไม่ยอม จนต้องมานั่งเถียงกันเพราะเรื่องเล็กๆ อยู่บ่อยครั้ง

“เอ้า... หรือมึงจะให้กูเรียกว่าเมีย เอางั้นก็ได้นะ จะที่รัก เมีย หรือเหี้ยอะไรก็ความหมายเดียวกันนั่นแหล่ะ” แบงค์ปรายตามองโฟนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมามองที่หน้าจอมือถือตามเดิม โฟนเดินมายืนข้างๆ โซฟา หย่อนตัวลงนั่งกอดเข่ามองหน้าคนที่ทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆ ที่คิดว่าน่าจะถูกด่ากลับมาแท้ๆ

“แอบซุกกิ๊กอยู่หรือไง ทำไมชอบเมินใส่กูจังวะ กูทำอะไรให้ไม่พอใจไหนมึงลองพูดมาดิ” โฟนจะหยิบมือถือแต่แบงค์ก็หย่อนมันลงที่ข้างหลัง นอนตะแคงมองหน้าโฟนด้วยท่าทีที่ดูกวนๆ เพราะว่าไม่อยากจะมานั่งระแวงอะไร โฟนจึงไม่พูดเรื่องนี้ แต่ยิ่งนานวันมันยิ่งชัดเจน มันเหมือนก่อนหน้าที่ความสัมพันธ์ของตนเองและแบงค์จะมาลงเอยแบบนี้

แบงค์จะติดมือถือ จะคุยกับสาวๆ ที่เข้ามาติดพันและนัดเจอเพื่อไปนอนด้วยกัน เป็นแบบนี้มาตลอด ดูห่างหายไปสักพักช่วงที่คบหากันแรกๆ แต่ตอนนี้กลับมาติดมือถืออีกครั้ง จะไม่สนใจก็ไม่ได้ เพราะว่ารักและเฝ้ามองดูอยู่ตลอดเวลา

“เพ้อเจ้อห่าอะไรของมึงวะ ฟุ้งซ่านมากไปแล้ว อีกอย่างมานั่งจ้องหน้ากูทำไม มีอะไรก็ไปทำสิ...” แบงค์ไม่ทีทีท่าใดๆ ให้เป็นพิรุธก็จริง แต่โฟนก็ยังคงคิดว่าที่แบงค์ติดมือถือนั้น น่าจะคุยกับใครสักคนและน่าจะคุยมาได้สักพักแล้ว

“กูไม่เข้าใจมึงว่ะแบงค์ บางทีกูก็รู้สึกเหมือนมีแค่กูคนเดียวที่เป็นฝ่ายรัก...” โฟนลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องนอน เปิดคอมนั่งทำงานทั้งๆ ที่ใจไม่สงบ เคยคิดและสงสัยอยู่เหมือนกันว่าจริงๆ แล้วแบงค์รักตนเองอย่างที่พูดจริงหรือเปล่า หรือเพราะแค่สับสนเท่านั้น ความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนและไม่ชัดเจนแบบนี้มันน่าอึดอัดมากจริงๆ

โฟนเปิดเข้าเฟสบุคและพิมพ์ข้อความลงไปเพื่อตั้งสเตตัส บางครั้งการระบายความรู้สึกในใจที่ไม่สามารถพูดได้ลงไป ไม่ใช่เพื่อต้องการให้ใครมากดไลค์หรือแสดงความคิดเห็น แต่เพื่อระบายความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดกับใครออกมาต่างหาก

ความรักไม่ผิด ถ้าจะผิดก็คงเป็นคนที่เลือกรักมากกว่า

แน่นอนว่าความรักไม่ได้ผิดอะไร แต่ที่ผิดคงเป็นคนที่ใช้ความรักทำในสิ่งที่ผิดมากกว่า แต่ก่อนก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมคนเราถึงต้องทุ่มเทให้กับความรักมากมายขนาดนี้ แต่พอมาเจอกับตัวเองถึงได้เข้าใจว่าคนเราสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อดึงความรักจากใครอีกคนมาเป็นของเรา

 มีหลายข้อความจากเพื่อนตัวดีที่มีแซวบ้าง กวนบ้างตามนิสัยของแต่ละคนที่เข้ามาโพสต์แสดงความคิดเห็นใต้สเตตัสของโฟน เจ้าตัวนั่งพิงเก้าอี้เงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องอย่างครุ่นคิด

Rrrrr

“ว่าไงมึง...”

[ตั้งตัสซะดราม่าเลยนะมึง ทะเลาะกันหรือไง กูนัดกับพวกไอ้นนไอ้อินเอาไว้ว่าจะไปนั่งดริงก์กัน มึงออกมานั่งด้วยกันมั้ยวะ บรรยากาศร้านนี้ดีนะมึง เหล้าไม่แพงด้วย มาเร็วๆ มึง จะได้หายดราม่า]

“นัดกันตอนกี่โมงวะ... เออๆ เดี๋ยวกูไปหา” โฟนตอบตกลงกับจั่นไปเรียบร้อย และตั้งใจว่าจะออกไปคนเดียว ที่จะออกไปไม่ใช่เพราะจะไปนั่งส่องสาวหรือหาเหยื่อเหมือนอย่างคนอื่นๆ แค่รู้สึกเบื่อๆ อึดอัดกับความรู้สึกในใจอย่างไม่สามารถหาอะไรมาอธิบายได้

โฟนอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมที่จะออกไปสังสรรค์ นานมากแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวกลางคืนแบบนี้ ตั้งแต่ที่รู้ตัวว่ารักแบงค์มากก็เพลาๆ เรื่องเที่ยวและเว้นเรื่องผู้หญิงไป

โฟนยืนแต่งทรงผมอยู่หน้ากระจก ฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรดที่ซอกคอและเสื้อผ้า มองผ่านกระจกเงาเห็นแบงค์ยืนพิงประตูห้องจ้องมองมายังตนเองเขม็ง

“จะไปไหน...” น้ำเสียงดูไม่ค่อยสบอารมณ์เอ่ยถามขึ้นมา โฟนติดกระดุมเสื้อเชิ้ต คว้ามือถือและกระเป๋าเงินมาถือเอาไว้

“ไปเที่ยวกับไอ้จั่น... กูไปนะ” โฟนเดินผ่านแบงค์ที่ยืนพิงประตูห้องนอนอย่างไม่คิดจะต่อความมากไปกว่านี้ ทั้งๆ ที่ตนเองปล่อยให้แบงค์ทำตามใจมาตลอด ตอนนี้ก็อยากจะทำตามใจตัวเองบ้าง แน่นอนว่ามันคือการประชดกลับของโฟน

“ถ้ามึงไป... งั้นกูกลับบ้าน แล้วไม่ต้องเสือกตามให้กูกลับมาค้างที่นี่นะ...”

“ก็แล้วแต่มึงแล้วกัน กูเหนื่อยจะยื้อจะรั้งหรือตามใจมึงแล้ว” โฟนหันมายิ้มอย่างเหนื่อยใจให้กับแบงค์ เดินก้าวไปข้างหน้าไอ้เพียงแค่สองก้าวเท่านั้น ถูกแบงค์สวมกอดจากทางด้านหลังและออกแรงรั้งไม่ให้เดินก้าวต่อไปได้

“มึงกล้าหันหลังให้กูอย่างนั้นหรอวะ กล้าทิ้งกูเอาไว้คนเดียวแบบนี้ จะผิดคำพูดใช่มั้ย มึงสัญญากับกูไว้ว่ายังไงวะ” แบงค์ใช้มือขยุ้มเสื้อเชิ้ตของโฟนจนยับไปหมด ออกแรงกระตุกให้เสื้อที่สอดอยู่ในกางเกงหลุดรุ่ยออกมา แสดงความเอาแต่ใจตัวเองอย่างเต็มที่

“มึงจะเอายังไงวะ ต้องให้กูตามใจมากแค่ไหนมึงถึงจะพอใจ พอกูเข้าหามึงก็ทำท่าเหมือนจะหนี พอกูจะออกห่างมึงก็รั้งกูเอาไว้ มึงรักกูบ้างมั้ยวะ... กูถามหน่อยเหอะ” แบงค์ซบหน้าลงบนหลังของโฟน นิ้วมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนที่ตนเองกอดรัดเอาไว้จนหมดทุกเม็ด สอดมือเข้าไปลูบไล้ที่หน้าท้องแกร่งแผ่วเบา

“ถามแต่คำถามเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้ ต้องให้กูพูดคำว่ารักให้มึงฟังทุกวันเลยหรือไง มึงถึงจะเชื่อว่ากูรักมึงจริงๆ” แบงค์ดึงเสื้อออกจากร่างกายของโฟน ปลดเข็มขัดและค่อยๆ ดึงมันออกจากเอวของคนตรงหน้า กดจูบลงบนไหล่และท้ายทอยของโฟนแผ่วเบา

“มึงจะเอายังไงกับกูวะ ทำเหมือนไม่สนใจ ทำเหมือนไม่แคร์ความรู้สึก แต่พอกูจะไปกลับรั้งกูเอาไว้แบบนี้...” มือเรียวสาละวนกับการปลดกระดุมกางเกง ซิปค่อยๆ ถูกรูดลงไปทีละน้อย ริมฝีปากไล้ไปทั่วไหล่และซอกคอที่เปลือยเปล่า แบงค์ไม่ยอมให้โฟนออกไปไหนทั้งนั้น เพราะรู้ดีว่าการไปเที่ยวแบบนั้นมันต้องมีผู้หญิงเข้ามาคลอเคลียชวนเสียตัวอยู่แล้ว

“กูเคยบอกมึงแล้วใช่มั้ย ว่าทำให้กูเป็นแบบนี้แล้วต้องรับผิดชอบ ถ้าคิดจะทิ้งกูไป มึงคิดผิดแล้ว กูไม่ยอมให้มึงไปนอนกับใครที่ไหนทั้งนั้น เพราะถ้ามึงทำ กูก็จะทำแบบเดียวกัน” มือเรียวสอดเข้าไปในกางเกงและลูบไล้ไปมา โฟนได้แต่กำมือแน่นอย่างพยายามสะกดกลั้นอารมณ์

แพ้อีกแล้ว แพ้ให้แบงค์ตลอด ไม่เคยชนะได้เลยจริงๆ ก็เพราะว่ารักมากเลยแพ้ทางเสมอมา

“กูไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ว่าทำไมถึงรักคนแบบมึงได้...”

“กูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงรักมึงได้ ทำให้กูรักแล้วอย่าคิดจะทำให้กูเสียใจ เพราะกูไม่มีทางยอมง่ายๆ” แบงค์ดึงโฟนให้เดินกลับเข้ามาในห้องนอน ดันโฟนให้นั่งลงบนเตียง ใช้มือทั้งสองข้างจับขอบกางเกงของโฟนเอาไว้ ดึงมันลงมาจนสุดปลายขา เหวี่ยงทิ้งไปบนพื้นห้องและหันกลับมาจ้องมองสบตากับคนบนเตียงนอนอย่างสื่อความต้องการออกไป

แบงค์นั่งคุกเข่าลงบนพื้น ใช้นิ้วมือไต่วนส่วนที่ถูกเปิดเผยไปมา ลูบไล้ไปเรื่อยด้วยความเคยชิน ลิ้นเย็นๆ แตะลงบนหน้าท้องแกร่ง ลากเลียไปตามแนวกล้ามท้อง มือกอบกุมส่วนแข็งขืนและขยับขึ้นลงเบาๆ ใช้ปากกดจูบไปทั่วร่างกายของโฟนอย่างกระหายในความต้องการ

“มึงแม่งโคตรเหี้ย...” แบงค์ดันโฟนให้นอนลงบนเตียง ขึ้นไปนาบทับร่างของโฟนเอาไว้ กดจูบปิดปากไม่ให้พูดอะไรมากไปกว่านี้ มือยังคงขยับขึ้นลงเพื่อกระตุ้นความรู้สึกของโฟนไม่หยุดหย่อน ลิ้นสอดเข้าไปในปากของคนด้านล่าง โฟนเม้มและดูดลิ้นของแบงค์อย่างดูดดื่ม ไล่ต้อนเกี่ยวพันลิ้นของกันและกัน มือหนากอดรัดร่างกายของแบงค์และลูบไล้ไปทั่ว

“กูเหี้ยแล้วไง ยังไงมึงก็รักกูอยู่ดี” แบงค์กระซิบด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ แหย่ลิ้นลงในหูของโฟนแผ่ว ลากลิ้นลงมาตามโครงหน้าของคนรัก ยังคงปรนเปรอด้วยมือที่ขยับอย่างระรัว สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของโฟนอีกครั้ง บดเบียดประกบจูบแลกลิ้นกันพัลวันอย่างดูดดื่มและร้อนแรง

ความรู้สึกร้อนรุ่มก่อเกิดกับคนทั้งคู่มากขึ้นอย่างทวีคูณ แบงค์ไล่จูบไปทั่วใบหน้าของโฟนด้วยความหวงแหนและอยากครอบครอง ไม่ใช่แค่โฟนคนเดียวที่รักและหวงแบงค์ ทางด้านแบงค์เองก็ไม่ต้องการให้ใครที่ไหนได้รับความรักจากโฟนไปทั้งนั้น

ร่างของแบงค์ค่อยๆ เคลื่อนลงต่ำ ลากลิ้นลงไปตามผิวกายฝากรอยเอาไว้ประปราย แบงค์กลับลงมานั่งคุกเข่าที่พื้นอีกครั้ง แทรกตัวอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของโฟน ความเร็วของมือค่อยๆ ลดลงช้าๆ แตะลิ้นลงบนส่วนปลายของจุดแข็งขืนเบาๆ ลากลิ้นตวัดเลียไปมาอย่างช่ำชอง

“กูโคตรรักมึงเลยแบงค์... อ่า” โฟนได้แต่ครางเสียงสั่นยามที่แบงค์ใช้ปากครอบครองดูดดุนอย่างแรงและหนักหน่วง ความต้องการของแบงค์มีมากพอที่จะทำให้โฟนอิ่มเอมได้เสมอ เซ็กส์ที่แสนร้อนแรงแผดเผาหัวใจของคนทั้งคู่ทุกครั้งที่เริ่มต้นสัมผัสซึ่งกันและกัน

โฟนสางเส้นผมอ่อนนุ่มและขยุ้มไปมา จับหัวแบงค์ขึ้นลงตามจังหวะที่เจ้าตัวกำลังครอบครองด้วยปากและลิ้นอย่างถึงใจถึงอารมณ์ โฟนได้แต่เงยหน้าขึ้นมองเพดาน กัดปากด้วยความเสียวซ่านจากสัมผัสร้อนระอุที่แบงค์สร้างให้

“อ่อนว่ะโฟน... เต็มหน้ากูเลยไอ้เหี้ย” แบงค์เงยหน้าขึ้นมาหลังจากที่โฟนปลดปล่อยอารมณ์รักในครั้งแรกออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ใครใช้ให้มึงดูดเก่งวะไอ้ห่า... มานี่ กูเช็ดหน้าให้” โฟนคว้ากระดาษมาซับที่ใบหน้าของแบงค์อย่างแผ่วเบา มันดูเซ็กซี่มากในความรู้สึกของโฟน ชายหนุ่มแตะลิ้นลงบนใบหน้าของแบงค์ ไล้ไปทั่วด้วยความรักและความปรารถนาที่เปี่ยมล้น

“กูไม่ได้เก่งแต่ปากอย่างเดียวหรอกนะ อย่างอื่นกูก็เก่ง” แบงค์ยิ้มอย่างพึงพอใจที่ตนเองได้รับความรักและความหลงใหลจากโฟนอย่างเต็มเปี่ยม เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกปลดออกจากร่างกาย

ริมฝีปากอุ่นประกบลงบนซอกคอและดูดเม้มเนื้ออ่อนนุ่มแผ่วเบา แบงค์เชยหน้าขึ้นเพื่อให้โฟนซุกไซ้ซอกคอตนเองได้อย่างถนัดถนี่ สางเส้นผมของโฟนและกอดรัดร่างกายที่หวงแหนอย่างแนบแน่น

“กูรู้... กูเคยลองมาแล้ว” โฟนยิ้มกริ่มให้กับคนในอ้อมกอด มือหนากดไหล่ให้แบงค์ลงนอนบนเตียง โฟนคร่อมอยู่เหนือร่างของแบงค์ ปลดเข็มขัดและถอดกางเกงออกไปให้พ้น เพื่อเปิดเผยร่างกายที่น่าหลงใหลที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้เสื้อผ้าอาภรณ์

“มองเหี้ยอะไรวะ สแกนร่างกายหารอยที่ไม่ใช่ของมึงรึไง... หาให้ตายก็ไม่มีหรอก ทุกวันนี้กูก็นอนกับมึงแค่คนเดียว แค่นี้กูก็ไม่มีเวลาไปเอากับใครแล้ว” โฟนยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ นาบตัวทาบทับลงบนร่างกายของแบงค์ จ้องมองสบตากับคนด้านล่างอย่างค้นหาความรู้สึกในหัวใจ

“กูรักมึงนะแบงค์ กูอยากให้มึงรักกูเหมือนที่กูรัก...” มือหนาวางลงบนใบหน้าดูดีของแบงค์ ลูบแก้มที่ขึ้นสีฝาดเบาๆ ด้วยความรักใคร่ ก้มลงจูบที่หน้าผากแผ่วด้วยความหลงใหลที่มีอย่างเปี่ยมล้น

“ถ้ากูไม่รักมึง กูคงไม่ยอมให้มึงทำแบบนี้กับร่างกายกูหรอก คิดซะบ้างนะมึง ไม่ใช่เอาแต่ระแวงดราม่าใส่กูตลอด ถ้างี่เง่ามากๆ กูจับมึงทำเมียแน่ไอ้สัด” โฟนหัวเราะน้อยๆ นี่แหล่ะแบงค์ คนที่ตนเองหลงรักอย่างหมดใจ

“ไม่ไหวว่ะ กูไม่ถนัดถูกแทง ขอเป็นฝ่ายทำแบบนี้ดีกว่า... รักมึงนะไอ้เหี้ย” โฟนก้มลงจูบปิดปากแบงค์ทันที มีเพียงคำด่าคำเดียวที่สามารถหลุดลอกออกมาให้ได้ยิน หลังจากนั้นมีเพียงแค่เสียงอื้ออึงในลำคอของเสียงคราง กับเสียงริมฝีปากที่เกิดจากการดูดดุนแลกลิ้นกับอย่างร้อนแรงของคนทั้งคู่

ร่างกายเปลือยเปล่าเบียดเสียดกอดรัดกันอย่างแนบแน่น เนื้อแนบเนื้อ สัมผัสแลกสัมผัส ริมฝีปากยังคงประกบจูบกันอย่างดูดดื่มลึกซึ้ง มือของคนทั้งคู่สร้างความรู้สึกที่ลึกล้ำด้วยการปรนเปรอให้แก่กันและกันอย่างต่อเนื่อง

“อ่า... สุขเหี้ยๆ” แบงค์ครางด้วยเสียงกดต่ำและกระเส่า ยามที่โฟนเคลื่อนตัวลงไปปรนเปรอส่วนล่างด้วยปากและลิ้นอย่างต่อเนื่อง คนถูกกระทำได้แต่จิกผ้าปูที่นอนและขยุ้มมันเอาไว้เพื่อคลายอาการเสียวสะท้านที่ได้รับ

“อย่างนั้น... กูชอบว่ะ” แบงค์บิดตัวไปมา ยิ่งโฟนเน้นแรงดูดและขยับระรัวมากเท่าไหร่ เหมือนความปั่นป่วนในอารมณ์จะรุนแรงมากเท่านั้น

“อ่ะ... อ้า...” ก๊อกแรกถูกปล่อยออกมาอย่างไม่มีกั๊ก โฟนหัวเราะน้อยๆ เอื้อมมือไปคว้ากระดาษมาเช็ดหน้าตนเองและโยนมันทิ้งไป

“อ่อนว่ะไอ้แบงค์ ว่าแต่กู ตัวเองก็ไม่ต่างสักเท่าไหร่หรอก” โฟนคว้าซองถุงยางกับเจลติดมือมาด้วย แบงค์ขยับตัวขึ้นไปนอนพิงหัวเตียงอย่างรู้หน้าที่ ของมันเคยคุ้นและคุ้นเคย อารมณ์ปรารถนามันเปี่ยมล้น ให้มานั่งเหนียมอายก็คงไม่ใช่ที่ อีกอย่างนั่นก็ไม่ใช่นิสัยของตนเองเสียด้วย

“มันช่วยไม่ได้นี่หว่า กูมันพวกเครื่องติดง่ายซะด้วย...” แบงค์ฉีกซองถุงยางและจัดการสวมให้ให้กับโฟนด้วยความชำนาญ ส่งยิ้มเชิญชวนพร้อมกับนอนลงอีกครั้ง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดที่บ่าของโฟน สะดุ้งเล็กน้อยยามที่เจลเนื้อใสเย็นแตะลงยังช่องทาง

“ทำเป็นสะดุ้ง... อ่อนไหวหรอวะ” ไม่ทันที่แบงค์จะได้พูดหรือตอกกลับ โฟนก็แทรกร่างกายเข้าใส่ทันที แบงค์จิกที่นอนเอาไว้แน่น ระบายลมหายใจช้าๆ โฟนยักคิ้วให้คนที่นอนทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บแปลบอย่างชอบใจ

“ห่าโฟน... ไม่คิดจะเปิดทางให้กูก่อนหรือไง แม่งใส่เข้ามาทีเดียวเลยแบบนี้ มันเจ็บนะ... อ๊ะ” แบงค์ไม่สามารถด่าได้มากไปกว่านี้ เพราะโฟนจงใจกดแช่ร่างกายค้างเอาไว้เล็กน้อย ค่อยๆ ขยับร่างออกช้าๆ แต่ทว่ากลับสวนเข้ามาแบบเร็วและเน้น จนแบงค์ได้แต่ระบายความเสียวซ่านออกมาด้วยการหอบหายใจถี่รัว

“แกล้งกูใช่มั้ย... อ่า” หลายๆ คนอาจจะคิดว่าแบงค์เป็นฝ่ายคุมและเหนือกว่าโฟนเสมอ แต่คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวของแบงค์เอง ว่าคนที่เป็นฝ่ายควบคุมที่แท้จริงคือใคร

โฟนอาจจะตามใจทุกอย่างไม่ว่าแบงค์จะต้องการอะไร แต่ทว่าเรื่องบนเตียง คนที่เป็นฝ่ายถูกคุมและถูกสะกดเอาไว้กลับเป็นแบงค์ต่างหาก

“อ๊ะ... อ๊ะ... ไอ้โฟน” เสียงของแบงค์สั่นสะท้านไปตามแรงถาโถมของโฟนที่กระแทกเข้าใส่ถี่รัว แบงค์ใช้ขาที่พาดอยู่ที่ไหล่ของโฟนออกแรงเกี่ยวให้คนด้านบนก้มลงมาหา ขาเรียวเปลี่ยนมาเกี่ยวที่เอวของโฟนเอาไว้แทน

“ว่าไงครับ... ที่รัก” โฟนก้มลงจูบแบงค์ด้วยความร้อนแรงดั่งไฟแผดเผา ทุกสัมผัสร้อนระอุ ร่างกายเบียดเสียดกันไปมา ก่อให้อารมณ์ปะทุมากยิ่งขึ้น เสียงของร่างกายที่กระทบกันดังเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง เตียงนอนสั่นไหวส่งเสียงแข่งกับกิจกรรมรักที่ดูไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลงง่ายๆ

“กูจุก...” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่แบงค์เองก็เกี่ยวเอวโฟนเอาไว้อย่างไม่ยอมให้ได้ถอนตัวหนีไปไหน จนกว่าจะสิ้นสุดอารมณ์สวาท คงไม่มีใครยอมแยกออกห่างจากกันอย่างแน่นอน

“อ่า... แม่งอย่างแน่น” โฟนก้มลงคลอเคลียที่ซอกคอ เม้มเนื้ออ่อนไปทั่ว ลากลิ้นลงมาที่เนินอกขาวผ่อง เม้มเนื้ออ่อนด้วยริมฝีปาก ขบกัดเบาๆ และจูบลงบนยอดอกที่แข็งชัน ตวัดลิ้นเลียระรัว สลับกับประกบจูบและดูดดุนไปมา ทำเอาแบงค์ต้องจิกเล็บลงบนหลังของโฟนเพื่อระบายอารมณ์เสียวซ่านที่สั่นสะท้านอยู่ในร่างกาย

หลังจากที่เชยชิมผิวกายของแบงค์อย่างเต็มอารมณ์หมายแล้ว โฟนขยับลุกขึ้นนั่งคุกเข่าลงบนเตียง จับเอวของแบงค์เอาไว้มั่น สอดแทรกร่างกายเข้าหาอีกครั้ง เร่งจังหวะโถมตัวเข้าหาแบงค์อย่างถี่รัว เดินจังหวะแบบเน้นๆ แรงๆ เพราะอารมณ์มันเริ่มปะทุเต็มที่

แบงค์ใช้มือช่วยปรนเปรอตนเอง ดึงอารมณ์ตามโฟนให้ทัน สัมผัสของโฟนร้อนแรงและถึงใจแบงค์เป็นที่สุด แล้วอย่างนี้จะให้ไปไหนได้ ในเมื่อมีของดีที่เสพเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่ออยู่ในมือแล้วอย่างนี้

“แบงค์... กูรักมึง” โฟนพร่ำบอกรักแบงค์อย่างไม่รู้เบื่อ ยิ่งมองใบหน้ายามที่อารมณ์รักมันพุ่งขึ้นสูงยิ่งรู้สึกว่าแบงค์เซ็กซี่จนน่าสัมผัสมากขึ้นเป็นทวีคูณ

“เออ... กูรู้น่า... อ่า... กูก็รักมึง” แบงค์กระตุกผ้าปูที่นอนแน่น มืออีกข้างเร่งจังหวะให้กับตนเองอย่างหนัก โฟนโถมร่างเข้าหาแบงค์อย่างถี่รัวและหนักหน่วง จนร่างสองร่างโยกไหวอย่างรุนแรง เตียงนอนส่งเสียงเสียดสีคลอไปกับเสียงของจังหวะที่โฟนส่งเข้าหาแบงค์ระรัว

“กู... สุดแล้วนะ อ่า” โฟนถอนตัวออกจากร่างของแบงค์ ดึงถุงยางออกและรูดรั้งจังหวะอย่างหนัก อารมณ์รักพุ่งทะยานเปอะเปื้อนไปทั่วหน้าท้องของแบงค์ ร่างหนาก้มลงจูบที่ใบหน้าของคนที่กำลังเร่งจังหวะให้ตามตนเองมาติดๆ

“อื้อ...” แบงค์เกร็งร่างกายสะท้าน ระบายลมหายใจถี่ๆ ทิ้งตัวนอนเหยียดเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว

“เยอะนะมึง... ทำอยู่เกือบทุกวันแท้ๆ” โฟนถูกต่อยเข้าที่ไหล่แบบไร้เรี่ยวแรง เพราะแบงค์กำลังอ่อนแรงเต็มที่ คนถูกประทุษร้ายได้แต่ขำ มือหนาลูบไล้ใบหน้าของคนที่หอบหายใจอย่างเหนื่อยล้าด้วยความรัก

“กูรักมึงนะแบงค์ รักจะเป็นจะตายอยู่แล้ว ห้ามนอกใจกูนะ ถ้ามึงนอกใจกูเมื่อไหร่ กูคงตายทั้งเป็นแน่ๆ” ปากหยุ่นแตะลงบนหน้าผากของคนรัก เลื่อนลงมาจูบปากแบงค์ด้วยความหลงใหลเนิ่นนาน โฟนตระกองกอดแบงค์เอาไว้ด้วยความรักและความหวงแหนเป็นที่สุด

“บอกตัวเองเถอะไอ้โฟน ถ้ามึงกล้าคิดจะทิ้งกูไปอีก กูเอามึงตายแน่...”

“ได้ข่าวคนที่ถูกเอาเกือบตายนี่มึงหรือเปล่า โอ๊ย... กูเจ็บนะกัดมาได้...” โฟนร้องลั่นเมื่อถูกแบงค์กัดเข้าที่ไหล่อย่างแรง บางทีโฟนอาจจะลืมไปว่าคนรักของตนเองคือแบงค์ คือคนที่ไม่ยอมอะไรง่ายๆ

“ปากดีนักนะไอ้โฟน...” แล้วแบงค์ก็ถูกเอาคืนด้วยการจูบปิดปากอีกครั้ง

ดูเหมือนว่าสงครามของคู่นี้คงไม่มีทางจบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน
 
..........


อ่านจบแล้วกลับไปเม้นที่บ้านนิยายให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่า ^^

No comments:

Post a Comment