45. ของรักของหวง
เมื่อกลับถึงห้องแบงค์ทิ้งตัวนอนบนโซฟาทันที
โยนข้าวของทั้งหมดทิ้งเอาไว้ที่โซฟาอีกตัวอย่างไม่คิดจะใส่ใจ
โฟนต้องเดินตามเข้ามาเก็บซากของแบงค์ตั้งแต่รองเท้าที่ปากประตู
เก็บหนังสือหนังหากับกระเป๋าเงินให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
“มึงเคยคิดจะเก็บของให้เป็นระเบียบบ้างมั้ยครับที่รัก...”
“ใครที่รักมึง”
โฟนยืนเท้าเอวมองดูคนรักที่นอนกระดิกเท้าเล่นมือถืออย่างสบายอารมณ์
ช่วงนี้แบงค์ค่อนข้างติดมือถือพอสมควร จะขอดูก็ไม่ยอม
จนต้องมานั่งเถียงกันเพราะเรื่องเล็กๆ อยู่บ่อยครั้ง
“เอ้า...
หรือมึงจะให้กูเรียกว่าเมีย เอางั้นก็ได้นะ จะที่รัก เมีย หรือเหี้ยอะไรก็ความหมายเดียวกันนั่นแหล่ะ”
แบงค์ปรายตามองโฟนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมามองที่หน้าจอมือถือตามเดิม
โฟนเดินมายืนข้างๆ โซฟา หย่อนตัวลงนั่งกอดเข่ามองหน้าคนที่ทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆ
ที่คิดว่าน่าจะถูกด่ากลับมาแท้ๆ
“แอบซุกกิ๊กอยู่หรือไง
ทำไมชอบเมินใส่กูจังวะ กูทำอะไรให้ไม่พอใจไหนมึงลองพูดมาดิ”
โฟนจะหยิบมือถือแต่แบงค์ก็หย่อนมันลงที่ข้างหลัง
นอนตะแคงมองหน้าโฟนด้วยท่าทีที่ดูกวนๆ เพราะว่าไม่อยากจะมานั่งระแวงอะไร
โฟนจึงไม่พูดเรื่องนี้ แต่ยิ่งนานวันมันยิ่งชัดเจน
มันเหมือนก่อนหน้าที่ความสัมพันธ์ของตนเองและแบงค์จะมาลงเอยแบบนี้
แบงค์จะติดมือถือ
จะคุยกับสาวๆ ที่เข้ามาติดพันและนัดเจอเพื่อไปนอนด้วยกัน เป็นแบบนี้มาตลอด
ดูห่างหายไปสักพักช่วงที่คบหากันแรกๆ แต่ตอนนี้กลับมาติดมือถืออีกครั้ง
จะไม่สนใจก็ไม่ได้ เพราะว่ารักและเฝ้ามองดูอยู่ตลอดเวลา
“เพ้อเจ้อห่าอะไรของมึงวะ
ฟุ้งซ่านมากไปแล้ว อีกอย่างมานั่งจ้องหน้ากูทำไม มีอะไรก็ไปทำสิ...”
แบงค์ไม่ทีทีท่าใดๆ ให้เป็นพิรุธก็จริง แต่โฟนก็ยังคงคิดว่าที่แบงค์ติดมือถือนั้น
น่าจะคุยกับใครสักคนและน่าจะคุยมาได้สักพักแล้ว
“กูไม่เข้าใจมึงว่ะแบงค์
บางทีกูก็รู้สึกเหมือนมีแค่กูคนเดียวที่เป็นฝ่ายรัก...” โฟนลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องนอน
เปิดคอมนั่งทำงานทั้งๆ ที่ใจไม่สงบ เคยคิดและสงสัยอยู่เหมือนกันว่าจริงๆ
แล้วแบงค์รักตนเองอย่างที่พูดจริงหรือเปล่า หรือเพราะแค่สับสนเท่านั้น
ความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนและไม่ชัดเจนแบบนี้มันน่าอึดอัดมากจริงๆ
โฟนเปิดเข้าเฟสบุคและพิมพ์ข้อความลงไปเพื่อตั้งสเตตัส
บางครั้งการระบายความรู้สึกในใจที่ไม่สามารถพูดได้ลงไป
ไม่ใช่เพื่อต้องการให้ใครมากดไลค์หรือแสดงความคิดเห็น
แต่เพื่อระบายความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดกับใครออกมาต่างหาก
‘ความรักไม่ผิด ถ้าจะผิดก็คงเป็นคนที่เลือกรักมากกว่า’
แน่นอนว่าความรักไม่ได้ผิดอะไร
แต่ที่ผิดคงเป็นคนที่ใช้ความรักทำในสิ่งที่ผิดมากกว่า
แต่ก่อนก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมคนเราถึงต้องทุ่มเทให้กับความรักมากมายขนาดนี้
แต่พอมาเจอกับตัวเองถึงได้เข้าใจว่าคนเราสามารถทำอะไรได้บ้าง
เพื่อดึงความรักจากใครอีกคนมาเป็นของเรา
มีหลายข้อความจากเพื่อนตัวดีที่มีแซวบ้าง
กวนบ้างตามนิสัยของแต่ละคนที่เข้ามาโพสต์แสดงความคิดเห็นใต้สเตตัสของโฟน
เจ้าตัวนั่งพิงเก้าอี้เงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องอย่างครุ่นคิด
Rrrrr
“ว่าไงมึง...”
[ตั้งตัสซะดราม่าเลยนะมึง ทะเลาะกันหรือไง
กูนัดกับพวกไอ้นนไอ้อินเอาไว้ว่าจะไปนั่งดริงก์กัน มึงออกมานั่งด้วยกันมั้ยวะ
บรรยากาศร้านนี้ดีนะมึง เหล้าไม่แพงด้วย มาเร็วๆ มึง จะได้หายดราม่า]
“นัดกันตอนกี่โมงวะ...
เออๆ เดี๋ยวกูไปหา” โฟนตอบตกลงกับจั่นไปเรียบร้อย และตั้งใจว่าจะออกไปคนเดียว
ที่จะออกไปไม่ใช่เพราะจะไปนั่งส่องสาวหรือหาเหยื่อเหมือนอย่างคนอื่นๆ
แค่รู้สึกเบื่อๆ อึดอัดกับความรู้สึกในใจอย่างไม่สามารถหาอะไรมาอธิบายได้
โฟนอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมที่จะออกไปสังสรรค์
นานมากแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวกลางคืนแบบนี้
ตั้งแต่ที่รู้ตัวว่ารักแบงค์มากก็เพลาๆ เรื่องเที่ยวและเว้นเรื่องผู้หญิงไป
โฟนยืนแต่งทรงผมอยู่หน้ากระจก
ฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรดที่ซอกคอและเสื้อผ้า
มองผ่านกระจกเงาเห็นแบงค์ยืนพิงประตูห้องจ้องมองมายังตนเองเขม็ง
“จะไปไหน...”
น้ำเสียงดูไม่ค่อยสบอารมณ์เอ่ยถามขึ้นมา โฟนติดกระดุมเสื้อเชิ้ต
คว้ามือถือและกระเป๋าเงินมาถือเอาไว้
“ไปเที่ยวกับไอ้จั่น...
กูไปนะ” โฟนเดินผ่านแบงค์ที่ยืนพิงประตูห้องนอนอย่างไม่คิดจะต่อความมากไปกว่านี้
ทั้งๆ ที่ตนเองปล่อยให้แบงค์ทำตามใจมาตลอด ตอนนี้ก็อยากจะทำตามใจตัวเองบ้าง
แน่นอนว่ามันคือการประชดกลับของโฟน
“ถ้ามึงไป...
งั้นกูกลับบ้าน แล้วไม่ต้องเสือกตามให้กูกลับมาค้างที่นี่นะ...”
“ก็แล้วแต่มึงแล้วกัน
กูเหนื่อยจะยื้อจะรั้งหรือตามใจมึงแล้ว” โฟนหันมายิ้มอย่างเหนื่อยใจให้กับแบงค์
เดินก้าวไปข้างหน้าไอ้เพียงแค่สองก้าวเท่านั้น
ถูกแบงค์สวมกอดจากทางด้านหลังและออกแรงรั้งไม่ให้เดินก้าวต่อไปได้
“มึงกล้าหันหลังให้กูอย่างนั้นหรอวะ
กล้าทิ้งกูเอาไว้คนเดียวแบบนี้ จะผิดคำพูดใช่มั้ย มึงสัญญากับกูไว้ว่ายังไงวะ”
แบงค์ใช้มือขยุ้มเสื้อเชิ้ตของโฟนจนยับไปหมด ออกแรงกระตุกให้เสื้อที่สอดอยู่ในกางเกงหลุดรุ่ยออกมา
แสดงความเอาแต่ใจตัวเองอย่างเต็มที่
“มึงจะเอายังไงวะ
ต้องให้กูตามใจมากแค่ไหนมึงถึงจะพอใจ พอกูเข้าหามึงก็ทำท่าเหมือนจะหนี
พอกูจะออกห่างมึงก็รั้งกูเอาไว้ มึงรักกูบ้างมั้ยวะ... กูถามหน่อยเหอะ”
แบงค์ซบหน้าลงบนหลังของโฟน
นิ้วมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนที่ตนเองกอดรัดเอาไว้จนหมดทุกเม็ด
สอดมือเข้าไปลูบไล้ที่หน้าท้องแกร่งแผ่วเบา
“ถามแต่คำถามเดิมๆ
ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้ ต้องให้กูพูดคำว่ารักให้มึงฟังทุกวันเลยหรือไง
มึงถึงจะเชื่อว่ากูรักมึงจริงๆ” แบงค์ดึงเสื้อออกจากร่างกายของโฟน
ปลดเข็มขัดและค่อยๆ ดึงมันออกจากเอวของคนตรงหน้า กดจูบลงบนไหล่และท้ายทอยของโฟนแผ่วเบา
“มึงจะเอายังไงกับกูวะ
ทำเหมือนไม่สนใจ ทำเหมือนไม่แคร์ความรู้สึก แต่พอกูจะไปกลับรั้งกูเอาไว้แบบนี้...”
มือเรียวสาละวนกับการปลดกระดุมกางเกง ซิปค่อยๆ ถูกรูดลงไปทีละน้อย
ริมฝีปากไล้ไปทั่วไหล่และซอกคอที่เปลือยเปล่า แบงค์ไม่ยอมให้โฟนออกไปไหนทั้งนั้น
เพราะรู้ดีว่าการไปเที่ยวแบบนั้นมันต้องมีผู้หญิงเข้ามาคลอเคลียชวนเสียตัวอยู่แล้ว
“กูเคยบอกมึงแล้วใช่มั้ย
ว่าทำให้กูเป็นแบบนี้แล้วต้องรับผิดชอบ ถ้าคิดจะทิ้งกูไป มึงคิดผิดแล้ว
กูไม่ยอมให้มึงไปนอนกับใครที่ไหนทั้งนั้น เพราะถ้ามึงทำ กูก็จะทำแบบเดียวกัน”
มือเรียวสอดเข้าไปในกางเกงและลูบไล้ไปมา โฟนได้แต่กำมือแน่นอย่างพยายามสะกดกลั้นอารมณ์
แพ้อีกแล้ว
แพ้ให้แบงค์ตลอด ไม่เคยชนะได้เลยจริงๆ ก็เพราะว่ารักมากเลยแพ้ทางเสมอมา
“กูไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
ว่าทำไมถึงรักคนแบบมึงได้...”
“กูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ว่าทำไมถึงรักมึงได้ ทำให้กูรักแล้วอย่าคิดจะทำให้กูเสียใจ เพราะกูไม่มีทางยอมง่ายๆ”
แบงค์ดึงโฟนให้เดินกลับเข้ามาในห้องนอน ดันโฟนให้นั่งลงบนเตียง
ใช้มือทั้งสองข้างจับขอบกางเกงของโฟนเอาไว้ ดึงมันลงมาจนสุดปลายขา
เหวี่ยงทิ้งไปบนพื้นห้องและหันกลับมาจ้องมองสบตากับคนบนเตียงนอนอย่างสื่อความต้องการออกไป
แบงค์นั่งคุกเข่าลงบนพื้น
ใช้นิ้วมือไต่วนส่วนที่ถูกเปิดเผยไปมา ลูบไล้ไปเรื่อยด้วยความเคยชิน ลิ้นเย็นๆ
แตะลงบนหน้าท้องแกร่ง ลากเลียไปตามแนวกล้ามท้อง มือกอบกุมส่วนแข็งขืนและขยับขึ้นลงเบาๆ
ใช้ปากกดจูบไปทั่วร่างกายของโฟนอย่างกระหายในความต้องการ
“มึงแม่งโคตรเหี้ย...”
แบงค์ดันโฟนให้นอนลงบนเตียง ขึ้นไปนาบทับร่างของโฟนเอาไว้
กดจูบปิดปากไม่ให้พูดอะไรมากไปกว่านี้
มือยังคงขยับขึ้นลงเพื่อกระตุ้นความรู้สึกของโฟนไม่หยุดหย่อน
ลิ้นสอดเข้าไปในปากของคนด้านล่าง โฟนเม้มและดูดลิ้นของแบงค์อย่างดูดดื่ม
ไล่ต้อนเกี่ยวพันลิ้นของกันและกัน มือหนากอดรัดร่างกายของแบงค์และลูบไล้ไปทั่ว
“กูเหี้ยแล้วไง
ยังไงมึงก็รักกูอยู่ดี” แบงค์กระซิบด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ แหย่ลิ้นลงในหูของโฟนแผ่ว
ลากลิ้นลงมาตามโครงหน้าของคนรัก ยังคงปรนเปรอด้วยมือที่ขยับอย่างระรัว
สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของโฟนอีกครั้ง บดเบียดประกบจูบแลกลิ้นกันพัลวันอย่างดูดดื่มและร้อนแรง
ความรู้สึกร้อนรุ่มก่อเกิดกับคนทั้งคู่มากขึ้นอย่างทวีคูณ
แบงค์ไล่จูบไปทั่วใบหน้าของโฟนด้วยความหวงแหนและอยากครอบครอง
ไม่ใช่แค่โฟนคนเดียวที่รักและหวงแบงค์
ทางด้านแบงค์เองก็ไม่ต้องการให้ใครที่ไหนได้รับความรักจากโฟนไปทั้งนั้น
ร่างของแบงค์ค่อยๆ
เคลื่อนลงต่ำ ลากลิ้นลงไปตามผิวกายฝากรอยเอาไว้ประปราย
แบงค์กลับลงมานั่งคุกเข่าที่พื้นอีกครั้ง แทรกตัวอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของโฟน
ความเร็วของมือค่อยๆ ลดลงช้าๆ แตะลิ้นลงบนส่วนปลายของจุดแข็งขืนเบาๆ
ลากลิ้นตวัดเลียไปมาอย่างช่ำชอง
“กูโคตรรักมึงเลยแบงค์...
อ่า” โฟนได้แต่ครางเสียงสั่นยามที่แบงค์ใช้ปากครอบครองดูดดุนอย่างแรงและหนักหน่วง
ความต้องการของแบงค์มีมากพอที่จะทำให้โฟนอิ่มเอมได้เสมอ เซ็กส์ที่แสนร้อนแรงแผดเผาหัวใจของคนทั้งคู่ทุกครั้งที่เริ่มต้นสัมผัสซึ่งกันและกัน
โฟนสางเส้นผมอ่อนนุ่มและขยุ้มไปมา
จับหัวแบงค์ขึ้นลงตามจังหวะที่เจ้าตัวกำลังครอบครองด้วยปากและลิ้นอย่างถึงใจถึงอารมณ์
โฟนได้แต่เงยหน้าขึ้นมองเพดาน กัดปากด้วยความเสียวซ่านจากสัมผัสร้อนระอุที่แบงค์สร้างให้
“อ่อนว่ะโฟน...
เต็มหน้ากูเลยไอ้เหี้ย” แบงค์เงยหน้าขึ้นมาหลังจากที่โฟนปลดปล่อยอารมณ์รักในครั้งแรกออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ใครใช้ให้มึงดูดเก่งวะไอ้ห่า...
มานี่ กูเช็ดหน้าให้” โฟนคว้ากระดาษมาซับที่ใบหน้าของแบงค์อย่างแผ่วเบา
มันดูเซ็กซี่มากในความรู้สึกของโฟน ชายหนุ่มแตะลิ้นลงบนใบหน้าของแบงค์
ไล้ไปทั่วด้วยความรักและความปรารถนาที่เปี่ยมล้น
“กูไม่ได้เก่งแต่ปากอย่างเดียวหรอกนะ
อย่างอื่นกูก็เก่ง”
แบงค์ยิ้มอย่างพึงพอใจที่ตนเองได้รับความรักและความหลงใหลจากโฟนอย่างเต็มเปี่ยม
เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกปลดออกจากร่างกาย
ริมฝีปากอุ่นประกบลงบนซอกคอและดูดเม้มเนื้ออ่อนนุ่มแผ่วเบา
แบงค์เชยหน้าขึ้นเพื่อให้โฟนซุกไซ้ซอกคอตนเองได้อย่างถนัดถนี่
สางเส้นผมของโฟนและกอดรัดร่างกายที่หวงแหนอย่างแนบแน่น
“กูรู้...
กูเคยลองมาแล้ว” โฟนยิ้มกริ่มให้กับคนในอ้อมกอด มือหนากดไหล่ให้แบงค์ลงนอนบนเตียง
โฟนคร่อมอยู่เหนือร่างของแบงค์ ปลดเข็มขัดและถอดกางเกงออกไปให้พ้น
เพื่อเปิดเผยร่างกายที่น่าหลงใหลที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้เสื้อผ้าอาภรณ์
“มองเหี้ยอะไรวะ
สแกนร่างกายหารอยที่ไม่ใช่ของมึงรึไง... หาให้ตายก็ไม่มีหรอก
ทุกวันนี้กูก็นอนกับมึงแค่คนเดียว แค่นี้กูก็ไม่มีเวลาไปเอากับใครแล้ว”
โฟนยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ นาบตัวทาบทับลงบนร่างกายของแบงค์ จ้องมองสบตากับคนด้านล่างอย่างค้นหาความรู้สึกในหัวใจ
“กูรักมึงนะแบงค์
กูอยากให้มึงรักกูเหมือนที่กูรัก...” มือหนาวางลงบนใบหน้าดูดีของแบงค์
ลูบแก้มที่ขึ้นสีฝาดเบาๆ ด้วยความรักใคร่
ก้มลงจูบที่หน้าผากแผ่วด้วยความหลงใหลที่มีอย่างเปี่ยมล้น
“ถ้ากูไม่รักมึง
กูคงไม่ยอมให้มึงทำแบบนี้กับร่างกายกูหรอก คิดซะบ้างนะมึง
ไม่ใช่เอาแต่ระแวงดราม่าใส่กูตลอด ถ้างี่เง่ามากๆ กูจับมึงทำเมียแน่ไอ้สัด”
โฟนหัวเราะน้อยๆ นี่แหล่ะแบงค์ คนที่ตนเองหลงรักอย่างหมดใจ
“ไม่ไหวว่ะ
กูไม่ถนัดถูกแทง ขอเป็นฝ่ายทำแบบนี้ดีกว่า... รักมึงนะไอ้เหี้ย”
โฟนก้มลงจูบปิดปากแบงค์ทันที มีเพียงคำด่าคำเดียวที่สามารถหลุดลอกออกมาให้ได้ยิน
หลังจากนั้นมีเพียงแค่เสียงอื้ออึงในลำคอของเสียงคราง
กับเสียงริมฝีปากที่เกิดจากการดูดดุนแลกลิ้นกับอย่างร้อนแรงของคนทั้งคู่
ร่างกายเปลือยเปล่าเบียดเสียดกอดรัดกันอย่างแนบแน่น
เนื้อแนบเนื้อ สัมผัสแลกสัมผัส ริมฝีปากยังคงประกบจูบกันอย่างดูดดื่มลึกซึ้ง
มือของคนทั้งคู่สร้างความรู้สึกที่ลึกล้ำด้วยการปรนเปรอให้แก่กันและกันอย่างต่อเนื่อง
“อ่า...
สุขเหี้ยๆ” แบงค์ครางด้วยเสียงกดต่ำและกระเส่า
ยามที่โฟนเคลื่อนตัวลงไปปรนเปรอส่วนล่างด้วยปากและลิ้นอย่างต่อเนื่อง คนถูกกระทำได้แต่จิกผ้าปูที่นอนและขยุ้มมันเอาไว้เพื่อคลายอาการเสียวสะท้านที่ได้รับ
“อย่างนั้น...
กูชอบว่ะ” แบงค์บิดตัวไปมา ยิ่งโฟนเน้นแรงดูดและขยับระรัวมากเท่าไหร่
เหมือนความปั่นป่วนในอารมณ์จะรุนแรงมากเท่านั้น
“อ่ะ...
อ้า...” ก๊อกแรกถูกปล่อยออกมาอย่างไม่มีกั๊ก โฟนหัวเราะน้อยๆ เอื้อมมือไปคว้ากระดาษมาเช็ดหน้าตนเองและโยนมันทิ้งไป
“อ่อนว่ะไอ้แบงค์
ว่าแต่กู ตัวเองก็ไม่ต่างสักเท่าไหร่หรอก” โฟนคว้าซองถุงยางกับเจลติดมือมาด้วย
แบงค์ขยับตัวขึ้นไปนอนพิงหัวเตียงอย่างรู้หน้าที่ ของมันเคยคุ้นและคุ้นเคย
อารมณ์ปรารถนามันเปี่ยมล้น ให้มานั่งเหนียมอายก็คงไม่ใช่ที่
อีกอย่างนั่นก็ไม่ใช่นิสัยของตนเองเสียด้วย
“มันช่วยไม่ได้นี่หว่า
กูมันพวกเครื่องติดง่ายซะด้วย...”
แบงค์ฉีกซองถุงยางและจัดการสวมให้ให้กับโฟนด้วยความชำนาญ
ส่งยิ้มเชิญชวนพร้อมกับนอนลงอีกครั้ง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดที่บ่าของโฟน สะดุ้งเล็กน้อยยามที่เจลเนื้อใสเย็นแตะลงยังช่องทาง
“ทำเป็นสะดุ้ง...
อ่อนไหวหรอวะ” ไม่ทันที่แบงค์จะได้พูดหรือตอกกลับ โฟนก็แทรกร่างกายเข้าใส่ทันที
แบงค์จิกที่นอนเอาไว้แน่น ระบายลมหายใจช้าๆ
โฟนยักคิ้วให้คนที่นอนทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บแปลบอย่างชอบใจ
“ห่าโฟน...
ไม่คิดจะเปิดทางให้กูก่อนหรือไง แม่งใส่เข้ามาทีเดียวเลยแบบนี้ มันเจ็บนะ... อ๊ะ”
แบงค์ไม่สามารถด่าได้มากไปกว่านี้ เพราะโฟนจงใจกดแช่ร่างกายค้างเอาไว้เล็กน้อย
ค่อยๆ ขยับร่างออกช้าๆ แต่ทว่ากลับสวนเข้ามาแบบเร็วและเน้น จนแบงค์ได้แต่ระบายความเสียวซ่านออกมาด้วยการหอบหายใจถี่รัว
“แกล้งกูใช่มั้ย...
อ่า” หลายๆ คนอาจจะคิดว่าแบงค์เป็นฝ่ายคุมและเหนือกว่าโฟนเสมอ
แต่คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวของแบงค์เอง ว่าคนที่เป็นฝ่ายควบคุมที่แท้จริงคือใคร
โฟนอาจจะตามใจทุกอย่างไม่ว่าแบงค์จะต้องการอะไร
แต่ทว่าเรื่องบนเตียง คนที่เป็นฝ่ายถูกคุมและถูกสะกดเอาไว้กลับเป็นแบงค์ต่างหาก
“อ๊ะ...
อ๊ะ... ไอ้โฟน” เสียงของแบงค์สั่นสะท้านไปตามแรงถาโถมของโฟนที่กระแทกเข้าใส่ถี่รัว
แบงค์ใช้ขาที่พาดอยู่ที่ไหล่ของโฟนออกแรงเกี่ยวให้คนด้านบนก้มลงมาหา
ขาเรียวเปลี่ยนมาเกี่ยวที่เอวของโฟนเอาไว้แทน
“ว่าไงครับ...
ที่รัก” โฟนก้มลงจูบแบงค์ด้วยความร้อนแรงดั่งไฟแผดเผา ทุกสัมผัสร้อนระอุ
ร่างกายเบียดเสียดกันไปมา ก่อให้อารมณ์ปะทุมากยิ่งขึ้น เสียงของร่างกายที่กระทบกันดังเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง
เตียงนอนสั่นไหวส่งเสียงแข่งกับกิจกรรมรักที่ดูไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลงง่ายๆ
“กูจุก...”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่แบงค์เองก็เกี่ยวเอวโฟนเอาไว้อย่างไม่ยอมให้ได้ถอนตัวหนีไปไหน
จนกว่าจะสิ้นสุดอารมณ์สวาท คงไม่มีใครยอมแยกออกห่างจากกันอย่างแน่นอน
“อ่า...
แม่งอย่างแน่น” โฟนก้มลงคลอเคลียที่ซอกคอ เม้มเนื้ออ่อนไปทั่ว
ลากลิ้นลงมาที่เนินอกขาวผ่อง เม้มเนื้ออ่อนด้วยริมฝีปาก ขบกัดเบาๆ
และจูบลงบนยอดอกที่แข็งชัน ตวัดลิ้นเลียระรัว สลับกับประกบจูบและดูดดุนไปมา
ทำเอาแบงค์ต้องจิกเล็บลงบนหลังของโฟนเพื่อระบายอารมณ์เสียวซ่านที่สั่นสะท้านอยู่ในร่างกาย
หลังจากที่เชยชิมผิวกายของแบงค์อย่างเต็มอารมณ์หมายแล้ว
โฟนขยับลุกขึ้นนั่งคุกเข่าลงบนเตียง จับเอวของแบงค์เอาไว้มั่น
สอดแทรกร่างกายเข้าหาอีกครั้ง เร่งจังหวะโถมตัวเข้าหาแบงค์อย่างถี่รัว เดินจังหวะแบบเน้นๆ
แรงๆ เพราะอารมณ์มันเริ่มปะทุเต็มที่
แบงค์ใช้มือช่วยปรนเปรอตนเอง
ดึงอารมณ์ตามโฟนให้ทัน สัมผัสของโฟนร้อนแรงและถึงใจแบงค์เป็นที่สุด แล้วอย่างนี้จะให้ไปไหนได้
ในเมื่อมีของดีที่เสพเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่ออยู่ในมือแล้วอย่างนี้
“แบงค์...
กูรักมึง” โฟนพร่ำบอกรักแบงค์อย่างไม่รู้เบื่อ
ยิ่งมองใบหน้ายามที่อารมณ์รักมันพุ่งขึ้นสูงยิ่งรู้สึกว่าแบงค์เซ็กซี่จนน่าสัมผัสมากขึ้นเป็นทวีคูณ
“เออ...
กูรู้น่า... อ่า... กูก็รักมึง” แบงค์กระตุกผ้าปูที่นอนแน่น
มืออีกข้างเร่งจังหวะให้กับตนเองอย่างหนัก
โฟนโถมร่างเข้าหาแบงค์อย่างถี่รัวและหนักหน่วง จนร่างสองร่างโยกไหวอย่างรุนแรง
เตียงนอนส่งเสียงเสียดสีคลอไปกับเสียงของจังหวะที่โฟนส่งเข้าหาแบงค์ระรัว
“กู...
สุดแล้วนะ อ่า” โฟนถอนตัวออกจากร่างของแบงค์
ดึงถุงยางออกและรูดรั้งจังหวะอย่างหนัก อารมณ์รักพุ่งทะยานเปอะเปื้อนไปทั่วหน้าท้องของแบงค์
ร่างหนาก้มลงจูบที่ใบหน้าของคนที่กำลังเร่งจังหวะให้ตามตนเองมาติดๆ
“อื้อ...”
แบงค์เกร็งร่างกายสะท้าน ระบายลมหายใจถี่ๆ ทิ้งตัวนอนเหยียดเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว
“เยอะนะมึง...
ทำอยู่เกือบทุกวันแท้ๆ” โฟนถูกต่อยเข้าที่ไหล่แบบไร้เรี่ยวแรง
เพราะแบงค์กำลังอ่อนแรงเต็มที่ คนถูกประทุษร้ายได้แต่ขำ
มือหนาลูบไล้ใบหน้าของคนที่หอบหายใจอย่างเหนื่อยล้าด้วยความรัก
“กูรักมึงนะแบงค์
รักจะเป็นจะตายอยู่แล้ว ห้ามนอกใจกูนะ ถ้ามึงนอกใจกูเมื่อไหร่
กูคงตายทั้งเป็นแน่ๆ” ปากหยุ่นแตะลงบนหน้าผากของคนรัก เลื่อนลงมาจูบปากแบงค์ด้วยความหลงใหลเนิ่นนาน
โฟนตระกองกอดแบงค์เอาไว้ด้วยความรักและความหวงแหนเป็นที่สุด
“บอกตัวเองเถอะไอ้โฟน
ถ้ามึงกล้าคิดจะทิ้งกูไปอีก กูเอามึงตายแน่...”
“ได้ข่าวคนที่ถูกเอาเกือบตายนี่มึงหรือเปล่า
โอ๊ย... กูเจ็บนะกัดมาได้...” โฟนร้องลั่นเมื่อถูกแบงค์กัดเข้าที่ไหล่อย่างแรง บางทีโฟนอาจจะลืมไปว่าคนรักของตนเองคือแบงค์
คือคนที่ไม่ยอมอะไรง่ายๆ
“ปากดีนักนะไอ้โฟน...”
แล้วแบงค์ก็ถูกเอาคืนด้วยการจูบปิดปากอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าสงครามของคู่นี้คงไม่มีทางจบลงง่ายๆ
อย่างแน่นอน
..........
อ่านจบแล้วกลับไปเม้นที่บ้านนิยายให้ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า ^^
No comments:
Post a Comment