28. ฟ้าหลังฝน...สวยงามเสมอ
ในห้องนอนกว้างที่ไร้แสงจากหลอดไฟ มีเพียงแสงจากดวงอาทิตย์ภายนอกที่สาดส่องเข้ามาทางด้านในเล็กน้อย สายลมและสายฝนยังคงซัดสาดลงมาไม่ขาดสาย มีเพียงแค่ความเงียบกับเสียงของลมหายใจของผมกับผู้ชายอีกคนที่โอบกอดผมอยู่บนเตียงนอน
ริมฝีปากของพี่พายบรรจงจูบไปทั่วใบหน้าของผม ความรู้สึกที่มันอัดแน่นอยู่ในหัวใจของเราทั้งคู่ ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ที่มันก่อเกิดขึ้นมาจากความรู้สึกในมุมเล็กๆ ที่เราอาจจะไม่รู้ตัว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันเอ่อล้นขึ้นมา เราจะไม่สามารถทานทนกับความรู้สึกและความต้องการเหล่านั้นได้
“เป็นต่อ...” พี่พายกระซิบเรียกชื่อผม ผมลืมตาขึ้นมามองสบตากับดวงตาคมเข้มที่ยามนี้ดูอ่อนโยนมากเหลือเกิน มันเป็นความอ่อนโยนที่ผมเชื่อว่ามีเพียงแค่ไม่กี่คนหรอกที่จะได้รับ และผมก็ดีใจมากที่ผมเป็นหนึ่งในคนจำนวนนั้น
“รักนะครับ” พี่พายกระซิบคำว่ารักเบาๆ พร้อมกับซุกหน้าลงบนซอกคอของผม ริมฝีปากที่ไล่ขบเม้มเนื้ออ่อนๆ บริเวณซอกคอของผม มันทำให้ผมเกิดความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมา ผมกอดพี่พายเอาไว้เพื่อย้ำเตือนว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างเราสองคนนั้นมันเป็นเรื่องจริง
ครั้งนี้จะไม่มีใครเข้ามาขัดเหมือนอย่างครั้งก่อน...ผมบอกกับตัวเองอย่างนั้น และถามกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่าพร้อมจริงๆ แล้วใช่มั้ยกับการที่จะผูกชีวิตกับพี่พายอย่างจริงจัง
แต่คำตอบของผมมันก็ยังคงเหมือนเดิม ผมพร้อมที่จะเดินเคียงข้างไปกับพี่พายจนกว่ามันจะถึงปลายทางของสองเรา เพราะฉะนั้นถ้าสิ่งไหนหรืออะไรที่มันเป็นความสุขของผู้ชายคนนี้ หรืออะไรก็ตามที่มันสร้างความสุขให้กับเราทั้งสอง...ผมก็จะยอมทุกอย่าง
……….CUT……….
“รักเหมือนกัน” ผมเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยยามที่พี่พายมันไล่เม้มเนื้อของผมด้วยริมฝีปาก แรงดูดหนักๆ คงสร้างรอยขึ้นมาอีกหลายรอย มือที่ลูบไล้สัมผัสผิวกายของผมก็บดคลึงไปทั่วร่างกายของผมราวกับว่าร่างกายนี้เป็นของพี่พายมันเอง
“อย่าน่ารักมาก...พี่ทนไม่ได้” พี่พายเลื่อนขึ้นมาจ้องมองสบตากับผมอีกครั้ง รอยยิ้มที่ผมกำลังมองเห็นอยู่ในตอนนี้มันทำให้ผมรู้สึกเขิน พี่พายมันหล่อมาก หล่อจนผมที่เป็นผู้ชายด้วยกันยังต้องยอมรับว่ามันหล่อจนเป็นอันตรายกับหัวใจ ผมไม่แปลกใจเลยถ้าจะมีคนมาชอบมันมากมายแบบนี้
“อย่าทำหน้าหล่อมาก มันน่ารำคาญ...” ผมถูกงับปากหนักๆ แรงๆ แล้วถูกประกบจูบลงมาอย่างแนบชิดอีกหน มือของพี่พายเริ่มสอดเข้าไปทางด้านในเสื้อ ลูบไล้ที่หน้าท้องของผมไปมาก่อนที่จะค่อยๆ สอดขึ้นมาที่หน้าอกของผม
เราสองคนยังคงจูบกันอย่างดูดดื่ม พี่พายไล่ต้อนจนผมแทบจะจนมุม ลิ้นร้อนที่สอดเข้ามาในโพรงปากมันทำให้ผมรู้สึกอึดอัด แต่ผมก็โต้ตอบด้วยการงับลิ้นของพี่พายแรงๆ ดูเหมือนว่าจะเกิดสงครามการจูบขึ้นมาระหว่างเราทั้งสอง
“หล่อมากแล้วรักมั้ยล่ะ หึ!!” ยังจะมาหึ...ผมไม่ตอบคำถามของพี่พาย ใช่ว่าไม่อยากตอบ แต่ทว่าปากของผมไม่ว่างพอที่จะเปล่งเสียงอะไรนอกจากเสียงอื้ออึงในลำคอเท่านั้น พี่พายกับผมจูบกันอีกครั้ง การแลกลิ้นเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง พี่พายกอดรัดผมแนบแน่นและมือไม้ก็ปัดป่ายบดคลึงอยู่ที่หน้าอกของผม
มันคงจะแปลกเกินไปถ้าผมบอกว่าผมไม่รู้สึกอะไรเลย ผมรู้สึกปั่นป่วนในท้อง วูบไหวในอก และรู้สึกระทวยกับจูบและสัมผัสที่พี่พายมันเน้นย้ำที่หน้าอกของผมทั้งสองข้าง ผมรู้สึกแปลกๆ ที่กำลังจะต้องมีสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน
แต่ผมจะไม่มองเรื่องเพศอีกต่อไป จะไม่สนใจว่าผมกับพี่พายเราจะเป็นเพศเดียวกันหรือไม่ ผมจะมองข้ามมันและมองเพียงแค่ว่า พี่พายมันคือคนที่ผมรักและผมก็คือคนที่พี่พายรัก แค่ความรักที่เรามีต่อกันมันก็มากเกินพอแล้ว...
ปากหยักถอนขึ้นจากริมฝีปากของผม พี่พายจ้องมองผมด้วยแววตาซุกซนและดูเจ้าเล่ห์ไม่น้อย มันทำให้ผมต้องละสายตาจากใบหน้าหล่อเหลาเสไปมองสายฝนนอกประตูบานเลื่อนที่ยังคงตกกระหน่ำไม่ขาดสาย ผมเม้มปากแน่นยามที่ปากหยุ่นๆ กดจูบลงบนหน้าอกของผม ผ่านเนื้อผ้าที่ยังคงสวมใส่ติดตัว
“อืม...” ผมได้แค่ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอยามที่ปากของพี่พายเม้มลงมายังหน้าอกของผมครั้งแล้วครั้งเล่า มือของผมกำที่แน่นเอาไว้แน่น ผมยอมรับก็ได้ว่าผมไม่ช่ำชองกับเรื่องแบบนี้ ที่ผ่านมาก็มีแต่การช่วยปลดปล่อยอารมณ์ให้กับตัวเองด้วยตัวเอง ไม่มีคนมาทำให้แบบนี้
“ถ้าไม่ใช่เพราะรัก...คงไม่ถนอมและไม่อดทนมานานมากขนาดนี้...รู้เอาไว้ด้วย” พี่พายมันเงยหน้าขึ้นมาเพื่อบอกกับผม ผมไม่รู้เลยว่าควรจะมีท่าทีอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ ผมได้แต่พยักหน้ารับเบาๆ ราวกับว่าตัวเองว่าง่ายเสียเหลือเกิน ไอ้เป็นต่อคนที่ปากเก่ง อวดดี กวนประสาทมันตายไปชั่วขณะแล้วหล่ะตอนนี้
เสื้อของผมถูกถอดออกจากร่างกาย พี่พายมันถอดเสื้อของตัวเองออกเช่นกัน ก่อนที่มันจะโน้มร่างลงมาแนบชิดแล้วประกบจูบผมอย่างร้อนแรงซึ่งต่างจากในตอนแรกที่ยังคงอ่อนโยน
เชื่อมั้ยว่าในสมองของผมนั้นมีเรื่องต่างๆ ล้านแปดวิ่งวนจนตีกันมั่วไปหมด ผมพยายามตัดเรื่องที่ผมคิดและกังวลทุกอย่างออกไปจากใจและความคิด มองแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกถึงแค่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
ผมรักพี่พาย...ผมรู้ตัวแล้วว่าไม่ใช่แค่ชอบแต่เป็นรัก และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ไม่ใช่เพราะอารมณ์ชั่ววูบแต่เป็นความสมัครใจ ความเต็มใจของผมเอง
“พี่พาย...ต่อรักพี่ว่ะ” ผมยกมือทั้งสองข้างขึ้นโอบกอดรอบคอพี่พายพร้อมกับจูบตอบกลับไป ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่หัวใจต้องการ ปล่อยให้มันเป็นไปตามอารมณ์แห่งความปรารถนา
นิ้วเรียวของพี่พายบดคลึงไปทั่วร่างกายของผม ปากหยุ่นไล่จูบไล่เม้มตามเนื้อตัวของผมที่มีร่องรอยของพี่พายในครั้งก่อนอยู่ประปราย ผมไม่รังเกียจสัมผัสที่พี่พายมอบให้ เพราะคนที่มอบให้คือพี่พายคนที่ผมรัก
เสื้อผ้าที่เปียกชื้นค่อยๆ ถูกถอดออกจากร่างกายของเราทั้งคู่ ร่างเปลือยเปล่าสองร่างนั่งโอบกอดรัดกันอยู่บนเตียงนอนกว้าง ผมโอบกอดและรับรสจูบของพี่พายอย่างไม่รู้เบื่อ มือของเราทั้งคู่ต่างปัดป่ายและกอดรัดกันแนบแน่น เนื้อแนบเนื้อจนแทบจะรวมร่างของเราทั้งคู่ให้เป็นคนๆ เดียวกัน
“ไม่เปลี่ยนใจใช่มั้ย...” พี่พายมันกระซิบถามเบาๆ ราวกับว่าถ้าผมบอกว่าเปลี่ยนใจแล้วมันจะยอมปล่อยผมออกจากอ้อมกอดของมันอย่างนั้นแหล่ะ ผมเม้มปากและขบกัดเบาๆ ที่ไหล่ของพี่พาย สร้างร่องรอยตามเนื้อตัวของพี่พายบ้างเพื่อเป็นการแก้แค้น
“ถ้าเปลี่ยนใจจะปล่อยไปมั้ย...” ความจริงมันเป็นคำถามที่คงมีอยู่เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น พี่พายมันไม่ได้ตอบออกมาเป็นคำพูดหากพี่พายกลับโอบกอดผมและรั้งร่างของผมเข้ามาแนบชิดกับพี่พายมากยิ่งขึ้น
“ถามใจตัวเองดีกว่าว่าจะหยุดได้รึเปล่า” พี่พายมันรู้ทันผมเสมอ ผมหมั่นไส้ผู้ชายคนนี้มากๆ มันฉลาดและรู้ดีเกินไปแล้วจริงๆ ผมกัดลงบนไหล่ของพี่พายอีกครั้งจนเป็นรอยฟันเรียงตัวกันสวยงามเลยครั้งนี้ พี่พายมันไม่ได้ร้องหรือว่าโวยวาย มันกลับทำบางอย่างกับร่างกายของผมจนผมแทบระทวยและหมดเรี่ยวแรงอยู่ในอ้อมกอดของมัน
“พี่พาย...มึง” ผมทำได้เพียงเอ่ยเรียกชื่อพี่พายมันเท่านั้น ก่อนที่จะถูกพี่พายเร่งเร้าด้วยสัมผัสจากมือหนาที่เริ่มนำพาอารมณ์ของผมให้ปะทุและระอุมากยิ่งขึ้น ผมถูกดันให้นอนลงบนเตียง พี่พายคร่อมทับร่างของผมเอาไว้แล้วขยับมือระรัวจนร่างกายของมันตอบสนองทุกสัมผัสของพี่พาย
ผมได้แต่นอนเม้มปากกันเสียงร้องของตัวเองเอาไว้ นอนกำที่นอนและจิกดึงมันอย่างแรงจนน่ากลัวว่ามันจะขาด แต่ทว่าตอนนี้ผมกลับรู้สึกอยากขาดใจเสียมากกว่าเมื่อพี่พายมันเปลี่ยนจากมือเป็นลิ้นและปากที่ทำหน้าที่สร้างอารมณ์ให้กับเราทั้งคู่
ผมว่าผมรู้แล้วหล่ะว่าไอ้อาการที่เหมือนกับว่าเราได้ล่องลอยนี่มันเป็นยังไง ทั้งๆ ที่หลังของผมยังคงสัมผัสกับความอ่อนนุ่มของเตียงนอน ด้านบนมีพี่พายที่กำลังมอบความสุขปรนเปรอผมอยู่แท้ๆ แต่ผมกลับรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังล่องลอยไปไกลแสนไกล
“พี่พาย...” ผมรู้สึกว่าตัวเองได้พบเจอกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่พี่พายมันสร้างขึ้นมาให้ ทุกครั้งที่พี่พายลากลิ้นไปทั่วร่างกายของผม ผมรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งร่างกาย ทุกครั้งที่ปากของพี่พายทั้งจูบทั้งเร่งจังหวะตรงส่วนนั้นให้กับผม ผมรู้สึกว่าผมกำลังได้พบเจอกับความรู้สึกที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมอบให้กับผมได้
“ซ่อนรูปนะต่อ...หึ” พี่พายมันเคลื่อนตัวขึ้นมาหาผมอีกครั้ง ทิ้งให้ผมค้างคากับความรู้สึกที่พี่พายมันทิ้งเอาไว้ให้ ผมรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งร่างกาย ไม่รู้เพราะพิษไข้หรือว่าเพราะความร้อนแรงของพี่พายมันก็ไม่รู้
“ก็ไม่น้อยนะรู้สึก...” ผมยังคงอวดดีและปากเก่งทั้งๆ ที่ตอนนี้แม่แต่แรงจะตอบโต้ยังแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ
“มีมากหรือมีน้อยก็มีค่าเท่ากัน...เพราะยังไงก็ไม่ได้ใช้งานอยู่ดี” ผมจะอ้าปากด่าแต่กลับกลายเป็นว่าพี่พายส่งลิ้นเข้ามาเกี่ยวรัดลิ้นของผมอย่างทันควัน ผมแพ้พี่พายจริงๆ แพ้ให้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นผู้ชายคนนี้ แต่ผมก็เต็มใจที่จะยอมแพ้
ร่างกายของเราแนบชิดกันทุกสัดส่วน พี่พายมันจงใจถูไถร่างกายลงมาบนร่างกายของผม ผมกอดพี่พายเอาไว้แนบชิด มันเป็นความรู้สึกดีๆ ที่ได้รับจากคนที่เรารัก
“หมดเวลาเล่นสนุกแล้วครับต่อ...” พี่พายมันลุกขึ้นนั่งคุกเข่าบนเตียงนอนแล้วจับขาทั้งสองข้างของผมเอาไว้ ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่ทว่าตัดสินใจไปแล้ว เดินมาจนกลางทางแบบนี้แล้วคงจะย้อนกลับไปไม่ได้อีกแล้ว
“เราจะเป็นของกันและกัน...” พี่พายมันยิ้มให้กับผม รอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิดหรอกที่ยอมให้มันทำแบบนี้ พี่พายมันไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ ยิ่งรอยยิ้มที่ดูมีความสุขมากมายขนาดนี้นานๆ ถึงจะได้พบเจอเสียที
“ต่อจะเป็นของพี่พาย...” ผมยิ้มรับให้กับผู้ชายที่ผมรัก ผมจะไม่เสียใจที่ครั้งแรกของผมนั้นเสียให้กับผู้ชายด้วยกันเอง แต่ทว่าผมจะดีใจกับมัน เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีความสุขกับคนที่ผมรัก
ผมสัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่สอดแทรกเข้ามาในร่างกายของผม ผมยอมรับเลยว่ามันเจ็บ มันเสียด และมันทรมานเป็นอย่างมาก หากแต่อ้อมกอดและจุมพิตของพี่พายที่จุมพิตไปทั่วใบหน้าของผมราวกับว่ากำลังพยายามช่วยปลอบประโลมผมที่กำลังเจ็บปวดกับครั้งแรกของเราสองคน
“พี่...พาย เจ็บ” ผมจิกที่นอนแน่น รู้สึกอึดอัดกับความรู้สึกแปลกใหม่นี้ รู้สึกเสียดไปทั้งท้อง พี่พายจับขาทั้งสองข้างของผมเอาไว้แล้วค่อยๆ ขยับร่างกายช้าๆ
“อดทนหน่อยนะต่อ...อื้ม” พี่พายโอบกอดผมเอาไว้พร้อมกับจูบผมอย่างร้อนแรง พี่พายอาจจะกำลังดึงความสนใจของผมให้เลิกเกร็งและต่อต้านสิ่งที่สอดแทรกเข้ามา ผมพยายามไม่เกร็ง พยายามปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น
พี่พายอ่อนโยนกับผมมากจนผมแปลกใจ ผู้ชายเจ้าอารมณ์คนนี้กำลังพยายามมอบความสุขให้กับผมโดยที่ไม่รุนแรงกับผมเลยสักนิด พี่พายค่อยๆ ขยับร่างกายช้าๆ และเริ่มต้นมอบความสุขให้กับผมด้วยการโยกไหวร่างกายเข้าหาผมแบบเนิบนาบ
ผมอธิบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผมในยามนี้ไม่ถูก ผมรู้สึกมั่วไปหมด รู้สึกสุขสมแต่ก็แอบเจ็บแปลบในบางจังหวะ รู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่อยากผลักไสให้พี่พายออกจากร่างกายของผม
เราสองคนเริ่มเคยชินกับบทรักบทแรกที่เริ่มต้นบรรเลงขึ้นมาท่ามกลางความรู้สึกที่เข้าใจตรงกัน มันเป็นช่วงเวลาที่เราทั้งสองถูกโอบล้อมด้วยความสุขที่มีเพียงแค่เราเท่านั้นที่รับรู้และเข้าใจมันได้
ผมรับรู้ได้ถึงเตียงนอนที่เด้งรับกับสัมผัสที่เริ่มหนักหน่วงของพี่พาย ผมอายนะกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเราทั้งคู่ แต่มันรู้สึกดีนะ ดีจนผมคิดว่าผมลืมไปเลยว่าผมกำลังอาย เพราะผมเองก็ปล่อยให้ร่างกายตอบสนองอารมณ์และความรู้สึกอย่างไม่มีกั๊ก
ผมได้ยินแต่เสียงของเราทั้งคู่ที่เรียกชื่อกันและกันและพร่ำบอกต่อกันว่ารักกันมากแค่ไหน ผมได้ยินเสียงของลมหายใจที่ถี่หนัก เสียงของร่างกายที่กระทบกระแทกกันอย่างต่อเนื่อง เสียงของเตียงนอนที่ดังขึ้นยามที่ร่างกายเราถาโถมเข้าหากันอย่างถี่รัว
ทุกๆ เสียงยืนยันให้ผมรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้นมันเป็นเรื่องจริงเสียยิ่งกว่าจริง มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความยินยอมพร้อมใจของเราทั้งคู่
“ต่อ...รักนะ...” พี่พายกระซิบเสียงพร่าพร้อมกับเร่งจังหวะเข้าหาผมอย่างหนักหน่วง ผมพยักหน้ารับแล้วกำที่นอนแน่น ดึงรั้งมันสุดแรงด้วยความรู้สึกทรมานที่มันกำลังจะได้รับการปลดปล่อยออกมาในเวลาอีกไม่นานนี้ มืออีกข้างของผมเร่งจังหวะเพื่อดึงให้อารมณ์ของผมได้รับการปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมา
“อื้อ...รู้แล้ว” ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าร่างกายของผมกระตุก ทำไมทุกอย่างดูขาวโพลนไปหมด พี่พายหยุดทุกๆ การกระทำแล้ว และมันก็ทิ้งร่างกายลงมานอนทับร่างกายของผมพร้อมกับกอดผมแน่น ผมยกมือขึ้นโอบกอดพี่พายพร้อมกับนอนหลับตานิ่ง ทุกอย่างมันขาวโพลนไปหมดจริงๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ก็คือผมมีความสุขกับสิ่งที่ผมนั้นได้ตัดสินใจทำมันลงไป และผมเองก็เชื่อว่าพี่พายเองก็คงมีความสุขไม่ได้ต่างไปจากผม
..........CUT...........
อ่านจบรบกวนกลับไปเม้นที่ http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=914185
No comments:
Post a Comment