38. อย่ากังวล
………. C U T ……….
“พี่พาย...ในห้องเหอะ” คือผมอายนะแต่แบบว่าอารมณ์มันก็มาแล้วไง จะปฏิเสธไปก็ใช่ที่ ขี้เกียจเล่นตัวมากแล้วไปสะสางอารมณ์ด้วยมือน้อยๆ ของตัวเองในห้องน้ำ อีกอย่างมาทำอะไรกลางห้องแบบนี้ไม่ได้หรอก เกิดพี่โก้กับไอ้ต็อปมันโผล่พรวดเข้ามาผมว่ามันสะดุดอ่ะ...ไม่ใช่ดิ ผมต้องบอกว่ามันโคตรน่าอายต่างหาก
“กลัวมันจะเข้ามาขัดจังหวะหรอวะ...วันนี้มันไม่มาหรอก” พี่พายมันบอกกับผมแบบนั้น พร้อมกับร่างของมันที่คร่อมตัวผมอยู่บนโซฟา ผมนั่งพิงอยู่ในท่าเดิม แต่พี่พายมันลุกขึ้นมานั่งหันหน้าเข้ามาหาผมและใช้มือทั้งสองข้างเท้าโซฟาเอาไว้ ใบหน้าหล่อๆ ที่ผมหลงใหลก็ก้มลงมาใกล้จนผมมองเห็นแม้กระทั่งรอยแผลเป็นจางๆ ตรงคางแบบชัดเจน
“พี่พาย...กูอายว่ะ” ผมเม้มปากแน่นมองดูพี่พายที่มันก้มลงเม้มที่คอของผม ผมมองเห็นแค่กลุ่มผมของมันก็จริง แต่ผมก็ทั้งเขินทั้งอายที่ต้องมามีอะไรกับมันกลางห้องนั่งเล่นแบบนี้ แม่งโคตรจะสว่างแบบโคตรๆ
“อายทำไม ได้กันออกจะบ่อย ไม่ชินอีกหรอวะ...” ชินห่าอะไรวะพี่พาย ใครมันจะไปชินง่ายๆ กับเรื่องแบบนี้ เห็นแบบนี้กูก็รักนวลสงวนตัวนะเว้ย ไม่ได้จะมายอมให้มึงสอยกันได้ง่ายๆ ทุกครั้งหรอกนะ
“ไม่ชินเว้ย...แต่ก็ชอบนะ” สัดต่อมึงมันแรด พูดเหี้ยอะไรออกไปแค่มันไซร้แล้วเม้มแค่นี้มึงระทวยเลยหรอวะ อารมณ์ไปหมดแล้วตอนนี้บอกตามตรง พี่พายมันทั้งจูบ ทั้งไซร้ ทั้งบีบขยำร่างกายผมไปทั้งตัวจนแทบจะช้ำไปหมด
“กูก็ชอบ...ตัวมึงหอม ผิวมึงนุ่ม มึงมันเกิดมาเพื่อให้กูกระทำว่ะต่อ” เหมือนจะซึ้งนะว่ามั้ย แต่พี่พายก็คือพี่พาย ผู้ชายคนนี้มันพาผมซึ้งได้ไม่นานหรอก แต่ถ้าพาเสียวนี่...นับไม่ถ้วนเหอะ
“เปลี่ยนให้กูอยู่บนบ้างได้ป่ะ บางทีกูก็อยากลองเป็นฝ่ายรุกบ้างนะ...อ๊ะ ห่าพี่พายมึงอย่ากัด” ผมแทบจะดิ้นพล่าน ไอ้ห่าพี่พายแม่งเลียอยู่ดีๆ เสือกกัดมาได้ เจ็บนะเว้ยไอ้เลว แค่กูขอลองบ้างแค่นี้ต้องรุนแรงด้วยหรอวะ
“กูบอกแล้วใช่มั้ยต่อ ว่าถ้ามึงจะอยู่บนมันเป็นไปได้แค่กรณีเดียวเท่านั้น...คือมึงต้องออนท็อปให้กูแบบนี้...” ผมถูกพี่พายมันพลิกให้มานั่งอยู่ทางด้านบน นั่งทับตัวของไอ้พี่พายเอาไว้ ห่าพี่พายกูไม่ได้ตัวเล็กๆ เลยนะ แล้วจะให้กูทำแบบนี้จริงๆ หรอวะ ขอกูลองรุกมึงบ้างไม่ได้หรอวะ กูไม่เอาไปบอกใครหรอกกูสัญญา
“พี่พายกูตัวหนักนะเว้ย...” ผมเกาะไหล่ไอ้พี่พายแน่น พี่พายมันซุกหน้ามาที่อกของผมแล้วใช้ปากแกะกระดุมเสื้อของผม มือมันกอดเอวแล้วบีบสะโพกของผมไปมาจนผมรู้สึกวาบไปทั้งตัว
“กูหนักกว่ามึงอีกต่อ เอาเหอะน่าอย่าพูดมาก กูอยากให้มึงเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง หึ...” หึห่าอะไรวะพี่พาย บอกตามตรงเลยว่านั่งท่านี้แม่งโคตรแนบชิด พี่พายมันถอดเสื้อของผมออกจากร่างกายได้แล้ว และตอนนี้มันก็เริ่มซุกหน้าอยู่ที่หน้าอกของผม ผมเริ่มปั่นป่วนและจิกมือเกาะที่ไหล่ของมันแน่น
“พี่พายมึง...” ผมว่าผมคงจะต้องตายคาอยู่ตรงนี้นี่แหล่ะครับ พี่พายมันไม่ปล่อยให้ผมเล่นตัวอะไรได้นานหรอก ถ้ามันจะใช้ทั้งลิ้นทั้งปากกับผมขนาดนี้ ผมเหมือนถูกสูบวิญญาณออกจากร่างจนแทบจะหมดสติแล้วจริงๆ
“ต่อ...หยุดพูดเหอะ มึงเองก็รู้สึกแล้วนี่นา มามีความสุขกันเถอะที่รัก” ตายก่อนนะครับ ไม่ไหวแล้วไอ้ห่าพี่พายมันเงยหน้าขึ้นมามองผมที่นั่งทับอยูบนตักของมัน ปากหยักๆ จูบที่คางแล้วลากลิ้นไปตามโครงหน้าของผม พี่พายเลียใบหูแล้วงับเบาๆ มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในกางเกงตรงด้านหลัง ผมยกตัวเล็กน้อยยามที่พี่พายมันบีบขยำร่างกายของผม
“พี่พาย...กูยอมแพ้มึงแล้วไอ้ห่า อ๊ะ...” ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่มีแรงเพราะลิ้นและปากของพี่พายที่มันจับจองไปทั่วทั้งร่างกายของผม ไม่มีส่วนไหนที่ไม่ได้รับการสัมผัส พี่พายพรมจูบไปทั่วเน้นย้ำที่ปากนานเป็นพิเศษ เราแลกความรู้สึกกันอยู่นานสองนาน เสื้อผ้าของเราค่อยๆ หลุดออกจากร่างกายไปเรื่อยตามอารมณ์ที่มันเริ่มพุ่งสูง
“จูบพี่หน่อยสิต่อ...” พี่พายมันเอนตัวพิงโซฟา ผมโน้มร่างเข้าหาพี่พายแล้วก้มลงจูบพี่พายอย่างดูดดื่ม อารมณ์ของเราทั้งคู่มาเต็มมากแล้วตอนนี้ ไม่สามารถทานแรงปรารถนาที่ก่อเกิดขึ้นมาอย่างชัดเจนไอ้อีกแล้ว ผมสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนของบางสิ่งบางอย่างที่มันสัมผัสกับร่างกายของผม ผมสอดมือลงไปสัมผัสมันแผ่วพร้อมกับมอบจูบให้กับพี่พายตามที่มันต้องการ
ร่างกายของเราแนบชิดกันอยู่บนโซฟา มือของเราทั้งคู่ต่างปรนเปรอและมอบความรู้สึกให้แก่กันจนแทบจะต้านทานความรู้สึกไม่ไหว ผมจูบที่ซอกคอของพี่พายพร้อมกับเม้มเบาๆ ไม่ได้สร้างรอยอะไรเท่าไหร่ ใจของผมโหยหาสัมผัสจากพี่พาย...มันน่าอายแต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเกิดความต้องการขึ้นมาจริงๆ
ผมก้มลงจูบที่อกแกร่งของพี่พาย ผมทำเป็นใจกล้าแตะลิ้นลงบนอกของพี่พายแล้วเลียเบาๆ ไปมา พี่พายเงยหน้าขึ้นครางเสียงสั่นจนใจของผมสั่นไหวไปด้วย อารมณ์ผมมันถูกกระตุ้นง่ายขนาดนั้นเลยหรือ แต่ผมคิดว่าเพราะคนที่กระทำให้ผมเป็นพี่พายมากกว่า ถ้ากับคนอื่นผมคงรู้สึกรังเกียจมากจนถึงขั้นขยะแขยงมันแน่ๆ
“เป็นต่อ...รักนะ” พี่พายบอกรักผมด้วยเสียงที่สั่นพร่า ผมกดจูบลงบนอกด้านซ้ายของพี่พายแรงๆ แล้วเลียเบาๆ สลับไปมา พี่พายบีบเค้นร่างกายของผมจนผมรู้สึกว่าบางทีตัวผมอาจจะช้ำไปแล้วก็ได้
เราสองคนสลับหน้าที่มอบความสุขให้แก่กัน พี่พายซุกหน้าลงบนอกของผมแล้วผลัดกันมอบความสุขให้กับผม ผมมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกตรงตู้โชว์ด้วยความอาย ผมรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ผมรู้ดีว่ามันอาจจะผิดในสายตาของคนอื่น แต่ผมจะไม่แคร์คนอื่นเพราะคนอื่นไม่ใช่คนที่ผมรัก
ผมจะแคร์แค่คนที่ผมรัก และอะไรที่มันเป็นความสุขของพี่พายผมก็ยินยอมจะมอบมันให้กับพี่พาย แม้มันจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปมองว่ามันผิด หากแต่ใจเราสองคนรักกัน เราจะมองข้ามความรู้สึกของคนอื่น แล้วมองแค่กันและกันเท่านั้นพอ...
“พี่พาย...รัก กูรักมึง” ผมกับพี่พายก้าวผ่านความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมาแล้ว และเราสองคนเป็นเหมือนคนๆ เดียวกันแล้ว ต่อให้เราด่ากันมากแค่ไหน ทะเลาะกันมากแค่ไหน หรือรุนแรงใส่กันมากเพียงใด แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรารักกันมากเพียงใด ไม่ต้องให้ใครมาเข้าใจ แค่เราเข้าใจในสิ่งที่เรารู้สึกก็เพียงพอ
ผมมองเงาสะท้อนด้วยความเขินอาย ผมมองภาพที่ตัวเองถูกยกตัวขึ้นเพื่อรับความรู้สึกทั้งหมดที่พี่พายจะมอบให้กับผม ผมเจ็บทุกครั้งที่เราเริ่มต้นมอบความรู้สึกให้แก่กัน แต่ผมรู้ดีว่าท้ายที่สุดของอารมณ์ที่จะได้รับการปลดปล่อย ผมจะมีความสุขกับมันมากเพียงใด
“เจ็บหน่อยนะต่อ...” พี่พายจูบผมอย่างอ่อนโยนเพื่อดึงความสนใจของผมให้มาอยู่กับรสจูบที่แสนหอมหวาน แทนการที่จะไปจดจ่อกับสิ่งที่สอดแทรกเข้ามา ผมจิกโซฟาไว้แน่นแล้วกดร่างกายทับลงบนตักของพี่พายด้วยความเจ็บและทรมาน
“ไหวอยู่...” ผมว่าผมพอจะรู้แล้วว่าทำไมพี่พายมันถึงอยากให้ผมทำท่านี้ให้มัน ถ้ามันจะรู้สึกทั้งลึก ทั้งซึ้ง และแนบชิดขนาดนี้ ผมว่ามันก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ...
ร่างกายของเราสองคนในยามนี้เป็นหนึ่งเดียวกัน จังหวะที่เราสร้างมันขึ้นมาเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ของเราทั้งคู่ ผมไม่รู้หรอกว่าต้องทำอย่างไรพี่พายถึงจะพออกพอใจกับมัน ผมปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามความรู้สึกและอารมณ์ที่มันเกิดขึ้น ร่างกายจะเคลื่อนไหวไปตามที่หัวใจปรารถนา ความต้องการมันจะเร่งเร้าทุกอย่างให้ดำเนินต่อไปจนกว่ามันจะถึงจุดสูงสุดของมัน
เราสองคนกอดก่ายกันแนบแน่น พรมจูบต่อกันอย่างไม่อาจจะแยกจากกันได้ง่ายๆ เสียงจังหวะที่เรารังสรรค์ขึ้นมาแข่งกับเสียงของสายฝนและสายฟ้าที่โปรยปรายลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ไฟในห้องตอนนี้มืดสนิท เหมือนมันจะรู้ว่าผมรู้สึกอายกับการมองเห็นเงาของตัวเองอย่างชัดเจนมากแค่ไหน ตอนนี้ไฟดับแต่แสงสว่างจากสายฟ้ายังลอดเข้ามาเป็นระยะๆ
“ต่อ...รักนะครับ รักจริงๆ” คำว่ารักที่เราต่างพร่ำบอกต่อกันนั้นมันไม่ใช่แค่คำที่พูดออกมาเล่นๆ แต่ความรู้สึกของเราทั้งสองคนมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมพยักหน้ารับพร้อมกับขยับร่างกายตามจังหวะที่มันควรจะเป็นถี่รัว สร้างความสุขให้กับคนที่โอบกอดผมเอาไว้ไม่ห่าง สร้างความสุขสมให้กับผู้ชายที่รักผมมากที่สุดคนนี้
“รู้นะ..อื้ม...รู้ว่ารัก” ผมส่งยิ้มให้กับพี่พาย รอยยิ้มที่ผมมั่นใจว่ามันน่าจะทำให้พี่พายมีความสุขร่วมไปกับผม มือของผมเกาะไหล่ของพี่พายแน่น มือของพี่พายปรนเปรออารมณ์และความรู้สึกให้กับผม พี่พายอ่อนโยนมากเหมือนกันนะในยามที่เรามีอะไรกัน พี่พายไม่ได้ดุดันไปหมดเสียทุกอย่างเหมือนอย่างที่ใครๆ หลายๆ คนเข้าใจ
“อ๊า...พี่พาย ต่อ...ไม่ไหว” ยิ่งเราเร่งจังหวะมากขึ้นเท่าไหร่ อารมณ์ของเราก็ใกล้จะถึงจุดหมายมากเท่านั้น เรายังคงจูบกันอย่างไม่รู้เบื่อ พี่พายจูบเก่งมากจนผมแทบจะตายกับแค่จูบของพี่พาย
มือของผมจิกไหล่พี่พายแน่น ร่างกายที่เสียดสีกันยิ่งกระตุ้นให้อารมณ์ของเราทั้งคู่ลุกโชนขึ้นมาเหมือนถูกโหม เราจูบแลกลิ้นกันอย่างไม่รู้จักอิ่มในรสหวานฉ่ำที่เรามีให้ต่อกัน ผมเม้มปากแน่นและเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยยามที่ต้องถาโถมร่างกายระรัวเช่นนี้ พี่พายช่วยจับสะโพกของผมยกขึ้นลงตามแรงจังหวะของมัน
“ไม่ไหว...เหมือนกัน” ช่วงสุดท้ายของการบรรเลงเพลงรักเดินทางมาถึง ผมรับรู้ได้ถึงความหนักหน่วงของจังหวะที่พี่พายเร่งขึ้นแบบถี่รัว ผมก้มลงกัดไหล่พี่พายเบาๆ อย่างหาที่ระบายอารมณ์ที่มันพร้อมจะพุ่งออกมาอย่างเต็มที่
“อ๊า...” สุดท้ายเราทั้งสองคนก็พากันไปถึงที่หมายอีกครั้ง เราสองคนหอบหายใจระรัวด้วยความเหนื่อยล้าแต่ทว่ากลับเต็มไปด้วยความสุขที่มากล้น ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าการมีเซ็กส์กับคนที่เรารักมันทำให้เรารู้สึกสุขล้นมากแค่ไหน
บางครั้งเรื่องบางอย่างเราไม่มีทางเข้าใจจนกว่าเราจะประสบพบเจอด้วยตัวของเราเอง
………. C U T ……….
No comments:
Post a Comment