03. ก็แค่เรื่องบนเตียง (นาย)
ผมมองมันด้วยสายตานิ่งๆ มันยังคงทำได้แค่ปรือตาเท่านั้น ยังไม่มีแม้แต่แรงจะลืมตายังอยากจะมามีอารมณ์ส้นตีนอะไรของมันก็ไม่รู้ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงได้นอนกับมันได้ทุกครั้งที่มันร้องขอแกมบังคับ ผมมีอารมณ์หรอวะ หรือว่าเป็นเพราะความเคยชิน หรือเพราะอะไรก็ไม่รู้
แต่ที่รู้ตอนนี้ไอ้คนที่มันนอนสั่นอยู่ใต้ร่างของผมแม่งแทบจะหนาวตายอยู่แล้ว ผมจึงค่อยๆ นาบทับร่างกายลงไปแนบชิดกับร่างของมัน พร้อมกับมือที่ลูบแผ่วที่หน้าของมันไปมา
ตอนนี้มันอาจจะไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่ แต่ก็ดีแล้ว เพราะว่าถ้ามันมีสติผมก็อาจจะไม่มีโอกาสได้พินิจพิจารณามันนานแบบนี้หรอก
แม่งตั้งท่าจะให้โยกมันอย่างเดียว บางทีผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเสียวมากมั้ยวะเวลาที่ถูกโยกเนี่ย สงสัยแต่ไม่อยากให้ใครมาทำหรอกนะ แบบมันไม่คือจริงๆ ว่ะ...
“ไปป์...มึงไหวแน่หรอวะ...” ผมสอดมือเข้าไปขยุ้มเส้นผมมันเบาๆ พร้อมกับจ้องมองใบหน้าที่ดูอิดโรยไร้เรี่ยวแรงของมัน อารมณ์ของผมในตอนนี้เหมือนกำลังจะเอาคนโดนยานอนหลับอ่ะ แบบแม่งเหมือนคนครึ่งหลับครึ่งตื่นยังไงก็ไม่รู้
“อื้อ...กอดกูหน่อย กูหนาว...” ผมก้มลงคลอเคลียที่แก้มของมันแล้วไล้จมูกไปมา ฝังลงไปแรงๆ พร้อมกับกอดรัดร่างที่ดูสั่นสะท้านของมันเอาไว้แน่น เดี๋ยวบอกให้กอด เดี๋ยวบอกไม่ให้กอดแต่ให้กด ผมว่ามันชักจะเอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะไอ้ไปป์เนี่ย
“กูจะกอดมึงเอาไว้ไม่ปล่อยเลย...” ผมเลื่อนริมฝีปากมากระซิบบอกกับมันก่อนจะลากไล้ริมฝีปากเฉียดแก้มของมันมาประทับที่ปากซีดๆ ของมันแผ่ว เม้มกลีบปากของมันไปมาเบาๆ
มือที่สั่นเทาของมันค่อยๆ ยกขึ้นมากอดรอบคอของผม มันเผยอปากเล็กน้อยแล้วเม้มปากของผมกลับคืนมา ผมเลื่อนมืออีกข้างไปตามแขนของมันแล้วสอดมือประสานกับมือของมันเอาไว้มั่น มันดูไม่มีสติจริงๆ เพราะถ้ามันมีสติมันจะไม่ทำแค่เม้มปากผมเท่านั้น มันจะสอดลิ้นเข้ามาหรือไม่ก็งับลิ้นของผม มากกว่าที่จะเม้มปากแล้วปล่อยให้ผมจูบปากดูดปากมัน
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผมในตอนที่เรามีอะไรกัน มันไม่ใช่แค่ความสนุกหรือความพึงพอใจ แต่มันดันเสือกมีความเอาใจใส่แฝงอยู่ในนั้น ทั้งๆ ที่ความจริงหน้าที่ของผมก็แค่ใส่ๆ โยกๆ ให้มันจบๆ กันไป เพราะมันก็แค่เซ็กส์ ก็แค่เรื่องบนเตียงของคนสองคนที่รู้สึกสนุกกับมัน
แต่ทว่าสิ่งที่มันไม่เคยรู้เลยคือความเอาใจใส่ของผมที่แฝงอยู่ในเซ็กส์ของเราทั้งคู่ ซึ่งผมก็กลัวว่ามันจะกลายเป็นความรู้สึกต้องห้ามที่ไม่สมควรก่อเกิดขึ้นมาในใจของผม
“นาย...” มันเรียกชื่อของผมยามที่ถอนริมฝีปากขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาของมันมองสบตากับผม ผมมองดวงตาของมันที่มองสบมา ก่อนที่มันจะหลับตานิ่ง แต่ยังคงกุมมือกับผมเอาไว้ไม่ห่าง ผมค่อยๆ แตะริมฝีปากที่เปลือกตาของมันเบาๆ แม่งทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจทุกครั้งที่อยากจะนอนกับผม
แต่เวลาอยู่กับสาวๆ หรือแฟนมันนี่มันทำเท่ มันก็แมนๆ เหมือนผู้ชายทั่วไป ทำตัวป๋า ทำตัวเป็นเจ้าบุญทุ่ม ก็ไม่น่าแปลกหรอกกับการที่มีคนเข้ามาหามันเพราะหวังผลประโยชน์มากกว่าความรักแบบนั้น
“หึ...” ผมยิ้มน้อยๆ ยิ้มเพราะอะไรอันนี้ก็ไม่รู้ดิ แค่มองหน้ามันแล้วเผลอยิ้มออกมา ก่อนจะค่อยๆ ซุกหน้าลงบนซอกคอของมัน ร่างกายของมันยังคงเย็นเฉียบ ผมพยายามใช้ไออุ่นจากร่างกายตนเองโอบกอดมันอย่างแนบชิดเพื่อถ่ายเทความอบอุ่นไปให้แก่มัน
ผมใช้ปากงับและเม้มผิวที่คอของมันเบาๆ ไซ้จมูกและปากไปมาอยู่ที่ซอกคอของมัน มือของผมปัดป่ายวนเวียนอยู่ที่หน้าอกของไอ้ไปป์ พร้อมกับนิ้วมือที่กดคลึงยอดอกของมันไปมา ใบหน้าของผมเคลื่อนมาที่อกของมันพร้อมกับปากที่ไล่จูบผิวกายของมันไปทั่ว ทิ้งรอยเอาไว้ประปรายอย่างจงใจ ก็แค่อยากแกล้งให้มันโวยวายตอนที่มันได้สติก็เท่านั้นเอง
ไหนๆ ตอนนี้มึงก็โสดอยู่นี่นะ...หึๆ
ผมแตะลิ้นลงบนยอดอกสีชมพูดเข้มของมัน ตวัดเลียไปมาแผ่วเบาก่อนจะกดจูบลงไปแรงๆ แล้วใช้ปากงับมันเอาไว้ ดูดหนักๆ แล้วใช้ลิ้นดุนมันไปมา ทำอยู่อย่างนี้สลับไปมา คนที่นอนหลับตานิ่งๆ มันบิดตัวเล็กน้อยแล้วไขว่คว้ามือขึ้นมาจิกที่ไหล่ของผมเอาไว้
“อ่า...กูชอบจัง” ยังเสือกจะมีแรงครางนะมึง ผมยังคงเม้มและดูดนมมันอยู่อย่างนั้น ไล่จูบไปตามผิวของมันจนทั่วหน้าอก แวะเวียนมาเล่นกับยอดอกของมันนานสองนาน ก่อนจะลากลิ้นลงมาตามแนวกล้ามท้องของมันที่มีอย่างสมส่วน
ผมวางมือลงบนเป้ากางเกงของไอ้ไปป์ สัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่เต็มเปี่ยมด้วยความปรารถนา มันนอนบิดตัวไปมาไม่รู้แล้วนะอันนี้ว่าเพราะหนาวหรือเพราะความเสียวกันแน่
ผมค่อยๆ ถอดกางเกงของมันออกจากร่างกาย นิ้วมือไล้ไปตามความแข็งขืนของส่วนซ่อนเร้นของมันแผ่ว กอบกุมมันเอาไว้แล้วค่อยๆ ขยับมือขึ้นลงทีละน้อย ผมเลื่อนตัวขึ้นไปนอนนาบทับร่างของมันที่ตอนนี้คลายความเย็นลงบ้างแล้ว
มือของผมขยับถี่รัวเพื่อเรียกอารมณ์ของมันออกมาให้เต็มที่เพื่อที่พร้อมจะเริ่มต้นการมีเซ็กส์กันแบบจริงจัง ผมเม้มกลีบปากของมันไปมาแล้วประกบจูบอย่างหนักหน่วง มันโอบกอดและจิกหลังของผมเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้แรงมากมายอะไรเหมือนอย่างในเวลาปกติ
“อื้อ...” เสียงครางอื้ออึงในลำคอดังอย่างต่อเนื่องทุกขณะที่ผมยังคงประกบจูบปากมันอยู่ ทั้งปากทั้งลิ้นที่หยอกล้อมันอย่างแกล้งๆ ให้มันทรมานเล่นๆ เสียบ้าง หลังจากที่มันแกล้งให้ผมคลั่งมาหลายครั้งแล้ว
“ดี...อื้อ...กูชอบ” มันเงยหน้าเล็กน้อยพร้อมกับปรือตาขึ้น ผมยิ้มให้กับมันพร้อมกับเร่งจังวะการรูดรั้งอย่างหนักหน่วง ผมซุกหน้าลงบนอกของมันแล้วไซ้ไปมา ลิ้นลากไล้ไปทั่วหน้าอกของมัน เวียนหยอกเย้ากับจุดสีชมพูเข้ม ใช้ลิ้นเลียตวัดไปมาพร้อมกับใช้ปากงับแล้วดึงมันเล่นเสียหน่อย
“นาย...อื้อ...” คนป่วยแต่มีอารมณ์แม่งครางเรียกชื่อผมเสียงสั่น ผมเลื่อนตัวลงไปเรื่อยๆ ลากลิ้นมาตามผิวของมันพร้อมกับทิ้งรอยเอาไว้ประปราย ผมแตะลิ้นลงบนสิ่งที่ผมกำลังกอบกุมแผ่ว เลียมันเล็กน้อยก่อนจะครอบครองมันด้วยปากของผม
ผมไม่เคยรังเกียจที่จะทำให้กับมัน ทั้งๆ ที่เราต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกัน การมาทำอะไรแบบนี้ให้กันมันก็ไม่ใช่เรื่องปกติของคนเป็นเพื่อนเค้าจะทำให้กันหรอกนะ แต่เพราะว่าเราไม่ใช่แค่เพื่อนปกตินี่สิ เราดันมีความสัมพันธ์ที่มันซับซ้อน มันเป็นมากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่กิ๊ก ไม่ใช่ชู้
แต่ก็แค่เพื่อนนอนที่สามารถนอนด้วยกันได้ทุกเมื่อที่เราคนใดคนหนึ่งเกิดความต้องการ ถึงแม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไอ้ไปป์ที่เป็นฝ่ายเริ่มต้นกับผม แต่นานๆ ทีผมเองก็เป็นฝ่ายไปหาและขอนอนกับมันเองเหมือนกัน ตอนที่ผมรู้สึกเบื่อๆ หรือเซ็งๆ กับมีนานั่นแหล่ะ
“อื้อ...” มันบิดตัวไปมายามที่ผมพยักหน้ารัวๆ ใส่มันอยู่อย่างนี้ ผมจับเอวของมันแน่นแล้วเร่งจังหวะการรูดรั้งอย่างหนัก มันชอบอะไรแรงๆ แม่งแอบซาดิสต์ไงไอ้ห่าไปป์ คือไม่รู้เหมือนกันนะว่าเวลาที่มันนอนกับคนของมันมันเล่นแรงแบบนี้หรอเปล่า แต่กับผมนี่ทั้งรอยกัดทั้งรอยดูดเต็มตัวไปหมด จนทำให้ผมไม่สามารถไปหามีนาได้เพราะไม่อย่างนั้นความแตกแน่ๆ
“นาย...ชอบ...กูชอบ” เสียงแหบๆ สั่นๆ ที่เรียกชื่อผม ทำให้ผมรู้สึกดีแบบแปลกๆ ผมว่าความรู้สึกบางอย่างแม่งชัดเจนมากเกินไปแล้ว ผมชักเริ่มจะเดินเข้าไปใกล้เส้นอันตรายมากเกินไปแล้วจริงๆ
ไอ้ไปป์มันเคยบอกว่าเวลาที่นอนกันมีอะไรกัน มันไม่รู้สึกอะไรนอกเสียจากความมัน ความสนุก ความท้าทาย มันเป็นความแปลกใหม่ที่มันไม่เคยได้จากใคร มันบอกว่ามีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่มันนอนด้วย นอกจากผมแล้วก็ไม่มีผู้ชายคนไหนที่มันยุ่งด้วยเลยสักคน
มันก็จริงตามที่มันว่า เพราะเท่าที่ผมเห็นมันจะพัวพันและยุ่งกับแค่ผู้หญิงเท่านั้น ผมก็ไม่ได้ใส่ใจหรอกว่ามันจะคบใคร จะเอากับใคร เพราะมันไม่ใช่เรื่องของผม
แต่ผมสนแค่ตอนที่เราสองคนนอนด้วยกัน เพราะตอนนี้มันเป็นเรื่องของเรา ต่อให้มันจะบอกกับผมว่ามันไม่รู้สึกอะไรก็ตาม แต่ผมรู้ดีว่าผมรู้สึกยังไง...แค่นั้นก็พอแล้ว
“มึง...อื้อ...กูชอบ...” ผมถอนริมฝีปากขึ้นมาจากส่วนแข็งขืนของมัน พร้อมกับมองมันด้วยความแปลกใจ ที่มันพูดกับผมมันจะสื่ออะไร ที่มันเรียกชื่อผมแล้วพูดว่าชอบ มันหมายถึงแค่สิ่งที่ผมทำให้มันหรือเปล่า หรือหมายถึงชอบอะไรกันแน่
“อย่าทำให้กูรู้สึกอยากก้าวข้ามเส้นอันตรายไปมากกว่านี้เลยห่า” ผมก้มลงนอนกอดมันแน่นๆ จูบที่ตำแหน่งข้างซ้ายของมันแรงๆ เหมือนอย่างที่ผมชอบทำ ผมต้องพยายามกดความรู้สึกทุกอย่างของตัวเองเอาไว้ ไม่อยากให้มันมากเกินไปกว่านี้ เพราะถ้าเกิดว่ามันไม่ได้คิดอะไรกับผม สักวันหนึ่งความสัมพันธ์แบบนี้มันก็ต้องจบลง แล้วผมก็จะไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้กับมันอีกต่อไป
“เหี้ยนาย...กูชอบมึง...” มันปรือตามองผม ผมมองสบตากับมันด้วยความแปลกใจ มันยกมือขึ้นมาแตะที่แก้มของผมเบาๆ แล้วยิ้มน้อยๆ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะรู้สึกอย่างไรดีกับสิ่งที่มันบอกกับผม ดุเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่มันพูดว่าชอบผม ตั้งแต่ที่เรามีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนแบบนี้มาจะสองปีแล้ว
“กู...ขาดมึงไม่ได้” ผมวางมือแตะเบาๆ ที่หน้าของมัน จ้องมองสบตากับมันเพื่อค้นหาดูว่ามันมีความรู้สึกอะไรที่ซ่อนอยู่ในดวงตาคู่นั้นของมันหรือเปล่า แต่ทว่ามันกลับหลับตาลงไป
“ไปป์...กูขาดมึงไม่ได้มานานแล้ว” ผมกระซิบบอกกับมัน ผมว่าผมได้คำตอบของคำถามที่ผมถามตัวเองเอาไว้แล้วหล่ะว่ามันคืออะไร คำตอบทั้งหมดมันอยู่ในนี้แล้ว
ผมจับไอ้ไปป์ให้พลิกตัวนอนคว่ำพร้อมกับถอดกางเกงของตัวเองออกแล้วทิ้งตัวนอนนาบทับร่างของมันเอาไว้ มันยังคงหนาวสั่นถึงจะไม่มากแต่ผมคิดว่าท่านี้น่าจะทำให้ผมสามารถกอดมันได้แน่นมากกว่าทุกๆ ท่า
ผมจูบที่ไหล่ของมันแล้วซุกหน้าอยู่ที่ซอกคอของมัน ผมจงใจถูไถส่วนแข็งขืนของผมกับร่างกายของมันแล้วโยกมันไปตามแรงโยกของร่างกายผม ผมโอบกอดมันเอาไว้พร้อมกับพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังของมัน มือของมันจิกดึงผ้าปูที่นอนเอาไว้
“นาย...กูอยากได้...มึงใส่เข้ามาที...” มันซบหน้าลงบนที่นอนแล้วเรียกร้องให้ผมทำให้มัน มันคงรู้สึกอึดอัดอยากปลดปล่อยเต็มที่แล้วสินะ
“กูเคยขัดใจมึงได้หรือเปล่าวะ...” ผมยันตัวลุกขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับเริ่มต้นเตรียมพร้อมที่จะเริ่มต้นกับมันอย่างจริงจัง ผมค่อยๆ แทรกตัวเข้าหาร่างของไอ้ไปป์ที่มันนอนครางเรียกชื่อของผมไม่หยุดปาก มันจิกที่นอนแน่นแล้วก้มหน้าลงซุกกับที่นอนยามที่ผมค่อยๆ กดร่างกายเข้าไปในตัวมัน
“อื้อ...นาย...อ่า...” ผมนอนนาบทับร่างของมันแนบแน่น กดแช่ร่างกายเอาไว้สักพัก มือของผมลูบหัวของมันแล้วจับมันให้หันหน้ามารับรสจูบของผม ผมค่อยๆ ขยับร่างกายขึ้นช้าๆ แล้วทิ้งจังหวะและน้ำหนักลงมาใส่มันเล็กน้อย ค่อยๆ ขยับจังหวะเรื่อยๆ พร้อมกับจูบแลกลิ้นกับมันไม่ห่าง
ทำไมกูมีความสุขกับเซ็กส์ครั้งนี้ มันเพิ่มเติมเข้ามาได้ยังไงวะ ทุกครั้งก็แค่รู้สึกสนุกแต่ครั้งนี้กลับสุขใจอย่างบอกไม่ถูก
“ไปป์...รู้สึกดีมั้ย” ผมกระซิบถามมันพร้อมกับโยกจังหวะให้ร่างกายของเราเคลื่อนไปตามแรงของการกระทำ มันพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับจิกที่นอนและเอาหน้าผากกดลงบนเตียงนอน ผมโถมร่างกายเข้าหามันพร้อมกับโอบกอดร่างกายของมันเพื่อมอบไออุ่นส่งผ่านการกระทำทั้งหมด เพื่อให้ร่างกายของมันคลายความหนาวเหน็บ มันน่าจะทำให้มันรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่าวะ
“นาย...แรงๆ “ มันเรียกร้องเหมือนอย่างในทุกๆ ครั้งที่เรามีอะไรกัน เราต่างไม่เคยต้องออมแรงต่อกันเลยเพราะเราต่างก็รู้ดีว่ารสนิยมของกันและกันคืออะไร เราสามารถใส่ได้เต็มที่เท่าที่เราต้องการ ก็นะ...ผมกับมันก็ผู้ชายทั้งคู่นี่หว่า มันก็ไม่ได้เกินไปกว่าร่างกายของเราจะรับไหวหรอก
“อ๊า...” เสียงแหบพร่าร้องดังอย่างต่อเนื่อง ผมพลิกร่างของเราทั้งคู่ให้นอนตะแคงลงบนเตียง ผมนอนขนาบอยู่ทางด้านหลังของมัน พร้อมกับเริ่มต้นใส่จังหวะกับมันอีกครั้ง มือข้างหนึ่งของผมสอดเข้าที่ใต้คอของมันพร้อมกับยื่นนิ้วมือของผมสอดเข้าไปในปากของไอ้ไปป์ มันดูดและเลียนิ้วมือของผมเหมือนอย่างที่มันชอบทำ มืออีกข้างของผมก็เอื้อมลงไปกอบกุมส่วนแข็งขืนแล้วรูดรั้งให้แก่มันอย่างถี่รัว
เสียงฟ้าร้องไม่อาจจะดังกลบเสียงของจังหวะที่ร่างกายของเรากระทบกัน เสียงของเตียงนอนที่ดังแข่งกับจังหวะที่เราโยกไหวร่างกายใส่กันอย่างไม่หยุดหย่อน ผมเร่งจังหวะโถมร่างกายเข้าหาไอ้ไปป์อย่างหนักหน่วง พอๆ กับจังหวะการรูดรั้งของมือผมที่เร่งจังหวะให้มันไม่ได้ต่างกันเลย มันบิดตัวไปมาในอ้อมกอดของผม
“อื้อ...ไปป์...แน่นสัด” ผมกดจูบลงบนหลังของมันแรงๆ กระแทกกระทั้นร่างกายเข้ามามันอย่างถี่รัว อารมณ์ของผมใกล้จะเต็มที่แล้ว มันเกือบจะขึ้นสู่จุดสูงสุดแล้ว และมันเองก็คงไม่ต่างกันเสียเท่าไหร่
“อ๊า...” ผมถอนร่างกายออกมาจากร่างกายของมัน มันจะดีกับตัวมันมากกว่าถ้าผมจะไม่ปล่อยอารมณ์ในร่างกายของมันแบบนั้น มือของผมทั้งสองข้างเร่งเร้าอารมณ์ของเราทั้งสองคนอย่างเต็มที่ ผมเงยหน้าขึ้นพร้อมกับหลับตาแน่นยามที่ความรู้สึกมันไบ่ขึ้นมาจนถึงจุดที่สูงสุดของอารมณ์อย่างเต็มที่แล้ว
“อ่า...” ผมปลดปล่อยความรู้สึกของผมนอกร่างกายของไอ้ไปป์ มันเองก็ไม่ได้ทิ้งจังหวะห่างจากผมเท่าไหร่ สิ่งที่เปื้อนเปรอะมือของผมทั้งสองข้างนั้นแสดงให้รู้ว่าอารมณ์ของเราทั้งคู่ได้รับการปลดปล่อยแล้ว
ผมคว้าทิชชู่มาจัดการเช็ดคราบที่ทิ้งเอาไว้ตามเนื้อตัวของเราทั้งคู่ แล้วทิ้งตัวลงนอนขนาบหันหน้าเข้าหามัน โอบกอดร่างที่นอนหอบหายใจถี่ๆ เอาไว้แน่นๆ ห่มผ้าให้เราทั้งคู่พร้อมกับกดหัวของมันให้ซุกมาหาผม
“หวังว่าอาการมึงจะไม่หนักกว่าเดิมนะไปป์...”
+++++CUT+++++
อ่านจบแล้วรบกวนช่วยกรุณากลับไปเม้นที่บ้านนิยายด้วยนะคะ
No comments:
Post a Comment